เอเอฟพี - เจ้าชายอัลวาลิด บิน ตาลาล หลานชายกษัตริย์ฟาฮัดแห่งซาอุดีอาระเบียและหนึ่งในมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของโลก วิจารณ์นโยบายตะวันออกกลางของสหรัฐฯว่าไม่ช่วยขจัดภัยก่อการร้าย เพราะเอื้อประโยชน์อิสราเอลมากเกินไป
คำวิจารณ์ดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการให้สัมภาษณ์เดอร์ สปีเกล นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของเยอรมนีเมื่อวันเสาร์ (3) โดยอัลวาลิดระบุว่า มีความขัดข้องใจเกิดขึ้นมากมายภายในโลกอาหรับ อันเป็นผลมาจากนโยบายของสหรัฐฯในตะวันออกกลาง และว่านโยบายนี้จำเป็นต้องได้รับการทบทวนใหม่ทั้งหมด
เขากล่าวต่อว่า ชาวซาอุดีและอาหรับส่วนใหญ่มองว่าอเมริกาไม่ค่อยสนใจปาเลสไตน์ และเอนเอียงเข้าข้างอิสราเอลมากเกินไป พร้อมกับแนะว่า วอชิงตันควรบังคับให้อิสราเอลหาหนทางแก้ไขปัญหาในตะวันออกกลางอย่างสันติ และนั่นจะทำให้การก่อการร้ายลดลง
ก่อนหน้านี้ อัลวาลิดซึ่งเป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจ ที่รวมถึงการลงทุนขนาดใหญ่ในโครงการสวนสนุกยูโรดิสนีย์และโรงแรมห้าดาวหลายแห่ง เคยพูดถึงเหตุการณ์ 11 ก.ย. 2001 ว่า สหรัฐฯสามารถหลีกเลี่ยงได้หากลดการสนับสนุนอิสราเอล ซึ่งต่อมาทำให้ลูดอล์ฟ จูเลียนี นายกเทศมนตรีนิวยอร์กในขณะนั้น ตอบปฏิเสธเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์นี้จำนวน 10 ล้านดอลลาร์ของซาอุดีฯ โดยอัลวาลิดเผยว่า คำปฏิเสธดังกล่าวเป็นผลมาจากแรงกดดันของชาวยิว
อัลวาลิด ซึ่งจบการศึกษาจากสหรัฐฯยังกล่าวว่า การก่อการร้ายในซาอุดีฯขณะนี้ เป็นฝีมือของคนกลุ่มเล็กๆที่ต่างคนต่างทำ และว่าการอพยพออกจากซาอุดีฯของชาวต่างชาติ เนื่องจากหวั่นภัยคุกคามดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในประเทศ
มหาเศรษฐีผู้นี้เผยต่อว่า การผลิตน้ำมันในซาอุดีฯไม่จำเป็นต้องพึ่งพาชาวต่างชาติ โดยร้อยละ 97 ของงานในภาคดังกล่าวปัจจุบัน อยู่ภายใต้การดูแลของชาวซาอุดี ขณะเดียวกัน โลกไม่จำเป็นต้องวิตกในเรื่องนี้ เพราะริยาดจะยังคงผลิตน้ำมันเพื่อการส่งออกต่อไป