รอยเตอร์ - ศพของอดีตประธานาธิบดีโรนัดล์ เรแกน ของสหรัฐฯ จะถูกตั้งไว้ที่หอสมุดประธานาธิบดีของเขาที่ ซิมิแวลลีย์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเวลา 2 วัน ก่อนย้ายไปสู่กรุงวอชิงตันเพื่อกระทำพิธีอย่างเป็นทางการ ก่อนจะส่งกลับมาฝังที่แคลิฟอร์เนีย บนเนินเขาบริเวณห้องสมุดเรแกนที่มองไปเห็นท้องทะเล โฆษกของครอบครัวเรแกนแถลง
โจแอน เดรก โฆษกของครอบครัวเรแกนแถลงเมื่อวันอาทิตย์ หนึ่งวันหลังจากที่อดีตประธานาธิบดีเรแกนถึงแก่อสัญกรรม ด้วยวัย 93 ปี ระบุว่าพิธีศพจะจัดขึ้นเป็นทางการในวันศุกร์ (11) โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช และผู้นำโลกคนอื่นๆ เข้าร่วมพิธี
เดรกระบุว่าการประกอบพิธีต่างๆ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ชาวอเมริกันได้อำลาผู้นำคนที่ 40 ของประเทศเป็นครั้งสุดท้าย "ท่านประธานาธิบดีเป็นคนของประชาชน และมันก็เป็นเรื่องสำคัญมากที่ประชาชนจะได้มีโอกาสเคารพศพท่าน หากพวกเขาต้องการ" เดรกกล่าว
ล่าสุดประชาชนหลายร้อยคนนำธงและดอกไม้มาเคารพศพอดีตประธานาธิบดีเรแกน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ซึ่งจับตาดูสถานการณ์อยู่สองฝั่งถนน ทั้งนี้พิธีของเรแกนจะเป็นการจัดพิธีศพประธานาธิบดีในวอชิงตันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่พิธีศพประธานาธิบดีลินดอน จอห์นสันเมื่อปี 1973 ทำให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเตรียมพร้อมรับมือภัยก่อการร้ายกันอย่างเต็มที่
อดีตประธานาธิบดีเรแกนซึ่งดำรงตำแหน่งประมุขอเมริกันอยู่ 2 สมัยรวมเป็นเวลา 8 ปี สิ้นชีวิตเมื่อเวลาบ่ายโมงวันเสาร์ (ตรงกับเช้าวันอาทิตย์ เวลาเมืองไทย) ด้วยอาการปอดบวมที่แทรกซ้อนโรคอัลไซเมอร์ซึ่งเขาป่วยมา 10 ปี ณ บ้านพักย่านเบลแอร์ ชานนครลอสแองเจลิส โดยที่มีภรรยา แนนซี เรแกน กับลูกๆ คือ รอน เรแกน กับ แพตตี เดวิส อยู่เคียงข้าง
ทันทีที่ข่าวการถึงแก่อสัญกรรมของเรแกนแพร่ออกไป คำไว้อาลัยก็หลั่งไหลจากทั่วโลกตะวันตก และทีวีอเมริกันต่างแพร่ภาพย้อนความหลังถึงยุคของเรแกน บอกเล่าถึงบทบาทของเขาในการร่วมส่วนทำให้ระบอบคอมมิวนิสต์ในอดีตสหภาพโซเวียตพังทลาย ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ซึ่งเดินทางไปร่วมพิธีรำลึก 60 ปีวันดีเดย์ที่ฝรั่งเศส กล่าวยกย่องเรแกนว่าเป็นผู้ชุบชีวิตสหรัฐฯขึ้นมาใหม่ และช่วยรักษาโลกให้ปลอดภัยจากการต่อสู้คัดค้านลัทธิคอมมิวนิสต์ของเขา
ด้านมาร์กาเรต แธตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษในยุคเดียวกับเรแกน ซึ่งถือเป็นเพื่อนและพันธมิตรร่วมอุดมการณ์อนุรักษนิยมของเขา กล่าวว่า เรแกนจะได้รับการจดจำในฐานะวีรบุรุษอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ตัวจริง ขณะที่กระแสข่าวระบุว่านางแธตเชอร์ซึ่งสุขภาพไม่ค่อยดีนัก จะเดินทางมาร่วมพิธีศพของเรแกนด้วย
เรแกนขึ้นนั่งเก้าอี้ประมุขอเมริการะหว่างปี 1981-89 เขาเป็นประธานาธิบดีซึ่งมีอายุมากที่สุดในตอนได้รับเลือกตั้งของสหรัฐฯ อีกทั้งรอดชีวิตหวุดหวิดจากการถูกลอบสังหารในปี 1981 แต่แล้วเขาก็กลายเป็นผู้เคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีซึ่งมีชีวิตยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา