สภาล่างสหรัฐฯ

หลังจากดึกวันเสาร์(12 พ.ย)ผลเลือกตั้งสว.รัฐเนวาดา แคทเธอรีน คอร์เทซ มาสโต (Catherine Cortez Masto)สามารถเอาชนะได้สำเร็จ ชี้ไปว่า พรรคเดโมแครตคาดจะคุมสภาสูงสหรัฐฯต่อไปโดยมีเสียงไม่น้อยกว่า 50 เสียง แต่ทว่าสภาล่างสหรัฐฯนั้นดูเหมือนพ

กลุ่มสื่อต่างชาติ รายงาน (18 มี.ค.) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามใน “กฎหมายการเดินทางไต้หวัน” (Taiwan Travel Act) ให้มีผลทางกฎหมาย สร้างความไม่พอใจอย่างมากให้ปักกิ่ง เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา สภาล่างสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมายการเดินทางไต้หวันโดยไม่มีเสียง

เดวิน นูเนส (Devin Nunes) ประธานคณะกรรมาธิการข่าวกรองสภาล่างสหรัฐฯ ถูกเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระดับสูงช่วย ให้เข้าถึงข้อมูลความลับ ที่แสดงว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และพรรคพวก “บังเอิญ” ถูกสหรัฐฯแอบสอดแนมแบบบังเอิญในช่วงการเปลี่ยนผ่าน พบว่า นูเนสพบกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระดับสูงไม่ต่ำกว่า 2 คนก่อนที่จะกลับออกมาเปิดแถลงข่าวช่วยแก้ต่างให้ทรัมป์ทวีตกล่าวหาโอบามาแบบไร้หลักฐาน

ล่าสุด “โดนัลด์ ทรัมป์” กลับมานำ ฮิลลารี คลินตัน 244 ต่อ 209 คะแนน หลังจากผลการเลือกตั้งรัฐฟลอริดา และรัฐนอร์ทแคโรไลนา ชี้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในรัฐตัดเชือกทั้ง 2 รัฐ ส่วนคู่แข่งรอบไพรมารีพรรครีพับลิกัน ส.ว.รัฐฟลอริดา มาร์โก รูบิโอ สามารถกวาดคะแนนเสียงกลับเข้ามาในสภาสูงอีกครั้ง เลือกตั้งสภาล่างสหรัฐฯ พรรครีพับลิกันชนะขาด 240 ต่อ 195 ส่วนสภาสูงสหรัฐฯ พรรครีพับลิกันนำ 48 ต่อ 44

ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่สำคัญในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯของ บารัค โอบามา ที่ล่าสุดประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่เมื่อในวันพุธ(2)สว.รัฐแมริแลนด์จากพรรคเดโมแครต บาบารา มิคัลสกี ( Barbara Mikulski)ประกาศการตัดสินใจลงคะแนนสนับสนุนร่างข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านของรัฐบาลสหรัฐฯที่ทั้งสหภาพยุโรป องค์การสหภาพประชาชาติ รัสเซีย และจีน ต่างร่วมลงนามสนับสนุนแล้ว และการประกาศของมิคัลสกีครั้งนี้ทำให้โอบามามีคะแนนเสียงสนับสนุนในสภาสูงสหรัฐฯมากเพียงพอที่จะวีโต้คว่ำมติคัดค้านดีลนิเคลียร์อิหร่านจากสภาล่างสหรัฐฯที่พรรครีพับลิกันมีเสียงข้างมากอยู่ในนั้น