จางจื่อหลิน

สร้างชื่อเสียงดีไซเนอร์ไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล เมื่อ “ฌอน–ชวนล ไคสิริ” ผู้ก่อตั้งและครีเอทีฟไดเรกเตอร์ประจำแบรนด์ “โพเอม” (POEM) แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย ได้เนรมิตรันเวย์หรูจัดแฟชั่นโชว์สุดยิ่งใหญ่ “โอเรียนทอล อิเธียเรียล” (O

“ความรักนั้นย่อมสำคัญกว่าความมั่งคั่งร่ำรวย” สำหรับประโยคเทิดทูนความรักแบบนี้ อดทำให้โต๊ะฯจีน อดนึกถึงเรื่องราวของ ‘จางจื่อหลิน’ เจ้าของตำแหน่งมิสเวิลด์ระดับโลกประจำปี 2007 ไม่ได้เลยทีเดียว…

“หยวนหย่งอี๋” บอกว่าเธอตัดสินใจไปพบกับ “เฉินหลง” เพื่อเคลียร์ปัญหาเมื่อ 22 ปี ก่อน หลังทั้ง 2 มีเรื่องกันระหว่างการทำหนัง “เร็วฟ้าผ่า” และสุดท้ายทุกอย่างก็คลี่คลายด้วยดี เมื่อ “พี่ใหญ่แห่งวงการหนังฮ่องกง” บอกว่าเขาจำเรื่องราวครั้งนั้นไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ

พระเอกวัย 51 ปี เข้าพิธีแต่งงานกับแฟนสาวที่อายุน้อยกว่าเขาถึง 22 ปีไปเรียบร้อยแล้ว โดยข่าวระบุว่าพ่อตายังเรียก “กัวฟู่เฉิง” ว่า “พี่ใหญ่” และบอกว่าเขาเองก็เป็นแฟนเพลงคนหนึ่งของลูกเขยคนนี้มาตลอด

สองนักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงเดินทางมาถ่ายทำรายการโทรทัศน์ที่ประเทศลาว ที่ทำให้ทั้งคู่ได้เข้าพิธีวิวาห์ในแบบคนลาวด้วยกัน ซึ่งถือว่าเป็นการจัดพิธีแต่งงานครั้งแรก หลังทั้งสองอยู่กินมาเป็นสิบปี โดยไม่เคยจัดงานอะไรแบบนี้เลย

จางจื่อหลิน กับ หยวนหยงอี๋ ใช้ชีวิตร่วมกันมาถึง 24 ปีเต็มแล้ว และแต่งงานกันมาได้ 15 ปี ซึ่งล่าสุดนักแสดงหนุ่มใหญ่เสน่ห์แรงได้ฉลองวันครบรอบแต่งงานด้วยการซื้อของขวัญที่มีมูลค่ารวมถึง 90 ล้านบาทให้เป็นของขวัญในวาระครบรอบดังกล่าว

“จางจื่อหลิน” บอกว่าสำหรับเขาแล้ว ชื่อเสียงหรือความสำเร็จในวงการบันเทิง ไม่เคยสำคัญเลย เมื่อเทียบกับการได้มีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข และสิ่งที่ถือว่าเป็นรางวัลที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ที่ได้เข้าวงการบันเทิงมาก็คือการได้พบกับ หยวนหย่งอี๋ อดีต มิสฮ่องกง ที่ต่อมาได้กลายเป็นภรรยาของเขานั่นเอง

เรื่องที่นางเอกสาวคนดัง หยวนหย่งอี๋ เคยให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าเธอเคยคบหากับชายที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ได้กลับมาเป็นประเด็นในหน้าสื่อฮ่องกงอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ จางจื่อหลิน สามีของเธอได้เปิดปากเอ่ยถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรก