xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ ชี้หุ้นไทยถูกมากในรอบ 14 ปี แนะเข้าลงทุนหุ้น 4 กลุ่ม

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ทรีนีตี้” ระบุโควิด-19 กดหุ้นไทยลงมาอยู่ในระดับที่ถูกมากใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยพี/อี ตั้งแต่ปี 2549 แนะเข้าลงทุนหุ้น 4 กลุ่ม ด้าน บล.โกลเบล็ก คาดหุ้นไทยยังไม่ฟื้น คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,310-1,380 จุด

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงเดือนมีนาคม 2563 ว่า เป็นโอกาสที่น่าสนใจของนักลงทุนในการเข้าสะสมหุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนระยะยาว เนื่องจากปัจจุบันหุ้นไทยปรับลดลงมาซื้อขายที่ดับอัตราส่วนราคาต่อกำไร (พี/อี) ปีนี้ที่ 14.0 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2549 ที่ 13.8 เท่าแล้ว ทั้งนี้ หากใช้พี/อีที่ 13.8 เท่านี้ในการคำนวณระดับดัชนีที่เหมาะสมจะได้ว่าดัชนีที่เป็นโอกาสในการเข้าสะสมหุ้นที่สำคัญจะตรงกับระดับ 1,310 จุด

สำหรับธีมการลงทุนแนะนำ 1. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) เนื่องจากมีระดับอัตราเงินปันผลเทียบกับผลตอบแทนพันธบัตร อยู่ในระดับสูง 2. กลุ่มบริหารสิทรัพย์ (AMC) ที่มีโอกาสเข้าซื้อสินทรัพย์ราคาถูกช่วงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แถมได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาลง ซึ่งหุ้นที่แนะนำ คือ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (BAM) บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT และบริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO 3. กลุ่มอาหารซึ่งจะได้ประโยชน์จากราคาสัตว์บกที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่า หุ้นแนะนำ คือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF และ 4. กลุ่มที่อิงการลงทุนภาครัฐ เพราะรัฐบาลน่าจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณอย่างเร่งด่วนในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณนี้ จึงแนะนำหุ้น บริษัท ช.การช่างจำกัด (มหาชน) หรือ CK

นายณัฐชาต กล่าวว่า ยังต้องติดตามการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงวันที่ 17-18 มีนาคมนี้ ว่า จะมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมดังกล่าวและการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ซึ่งนักลงทุนในตลาดให้น้ำหนัก 100% เช่นกันว่าจะมีมติปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายแท้จริงของไทยติดลบมากขึ้น ซึ่งจากสถิติในอดีตอัตราดอกเบี้ยแท้จริงที่ติดลบนี้มักส่งผลให้หุ้นยังคงเป็นตราสารที่ตอบโจทย์การลงทุนได้

นางสาว วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า หุ้นไทยยังไม่ฟื้นจากประเด็นกดดันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และการเมืองในประเทศขาดเสถียรภาพจากการเกิดแฟลชม็อบของนิสิต-นักศึกษาหลายสถาบัน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,310-1,380 จุด แนะนำกลยุทธ์ลงทุนหุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า TU และ CPF รวมทั้งหุ้น Defensive เช่น RATCH, TTW, ADVANC และ CHG นอกจากนี้ ยังมีหุ้น High Dividend เช่น KKP, TISCO และ INTUCH ซึ่งเป็นกลุ่มที่น่าลงทุนในช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมาเยอะในช่วงที่ผ่านมา


กำลังโหลดความคิดเห็น