xs
xsm
sm
md
lg

"ทาทา" ถอยทัพจาก TSTH / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ราคาหุ้น บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH พุ่งขึ้นแรงทันที ขานรับข่าวการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ หลังจากผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่บรรลุข้อตกลงเจรจาซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม โดยวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ประกาศการซื้อขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ ราคาหุ้นขยับขึ้นไปปิดที่ 73 สตางค์ เพิ่มขึ้น 12 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 19.67%

TSTH แจ้งว่า T S GLOBAL HOLDINGS PTE.LTD. ซึ่งถือหุ้น TSTH จำนวน 5,718.47 ล้านหุ้น หรือ 67.90% ของทุนจดทะเบียน ได้ทำสัญญาขายหุ้นทั้งหมดให้ hebsteel global holding pte.ltd ในราคาหุ้นละ 79 สตางค์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,517.59 ล้านบาท และจัดจำทำคำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทั้งหมด

การครอบงำกิจการหุ้น TSTH ครั้งนี้ ถือว่าทั้งสองฝ่าย เก็บข่าวได้อย่างมิดชิด เพราะไม่มีข่าววงในรั่วไหลมาก่อน ราคาหุ้นไม่ได้ขยับขึ้นไปดักข่าวดีล่วงหน้า เหมือนบริษัทจดทะเบียนอื่นๆ

ทั้งที่การเจรจาซื้อขาย ดำเนินมานับเดือนแล้ว แต่เพิ่งบรรลุข้อตกลง และแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ตามขั้นตอน

ก่อนหน้านี้ มีบริษัทเหล็กขนาดใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เจรจาซื้อหุ้นกับกลุ่ม "ทาทา" ผู้ถือหุ้นใหญ่ TSTH แล้ว แต่ไม่บรรลุข้อตกลงเรื่องราคา ทำให้ต้องล้มเลิกการเจรจา

"ทาทา" กลุ่มธุรกิจเหล็กรายใหญ่ของอินเดีย ซื้อ TSTH จากกลุ่มบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เมื่อหลายปีก่อน แต่อุตสาหกรรมเหล็กอยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่ม "ทาทา" เริ่มมีปัญหา เพราะการลงทุนในโครงการต่างๆ ทั่วโลกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย กระทบต่อฐานะทางการเงิน จนต้องประคับประคองธุรกิจมาตลอด โดยการตัดขายสินทรัพย์บางอย่าง

และขายโรงงานผลิตเหล็กใหญ่ที่สุดในอังกฤษให้ บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI แต่ SSI ก็แบกไม่ไหว ต้องปิดโรงงาน ทิ้งหนี้เสียให้ธนาคารไทยพาณิชย์ กับธนาคารกรุงไทย ที่ปล่อยกู้ซื้อโรงเหล็กจากกลุ่ม "ทาทา" จำนวนหลายหมื่นล้านบาท

กลุ่ม "ทาทา" ทนแบก TSTH ไม่ไหวแล้ว เพราะผลตอบแทนไม่คุ้มกับการลงทุน และถอดใจที่จะถือต่อไป เนื่องจากมองไม่เห็นว่า อุตสาหกรรมเหล็กจะฟื้น จึงตัดสินใจขายหุ้นทิ้ง แม้จะขาดทุนหลายพันล้านบาทก็ตาม

ผลดำเนินงาน TSTH แม้จะมีกำไรต่อเนื่อง แต่ผลกำไรน้อยมาก เมื่อเทียบกับรายได้ โดยมีผลกำไรประมาณ 2% ของยอดรายได้จากการขาย

ปี 2561 ผลประกอบการ TSTH มีกำไรสุทธิ 454.56 ล้านบาท ส่วน 9 เดือนแรกปี 2562 มีผลขาดทุนสุทธิ 71.62 ล้านบาท  โดยมีค่า พี/อี เรโช 1,835 เท่า ซึ่งสูงมาก สูงจนนักลงทุนทั่วไปไม่กล้าเข้าไปแตะหุ้นตัวนี้

ผู้ถือหุ้นรายย่อย TSTH จำนวนทั้งสิ้น 6,029 ราย ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วน 26.68% การที่กลุ่ม "ทาทา" ทิ้งหุ้น TSTH สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจเหล็กยังไม่สดใส จนแม้แต่นักลงทุนรายใหญ่ติดอันดับโลก ยังแบกไม่ไหว ต้องยอมถอยทัพ บาดเจ็บกลับออกไป

ส่วน นักลงทุนรายย่อยที่เล่นหุ้นเหล็ก ไม่ต้องพูดถึง เจ็บกันถ้วนหน้า เพียงแต่เจ็บมากหรือเจ็บน้อยเท่านั้น

นักลงทุนที่นั่งตีขิมสบายใจไปแล้ว เพราะล้างมือในเตาหลอมเหล็กไปแล้ว ขายหุ้นเหล็กจนไม่เหลือแม้แต่บริษัทเดียวคือ เจ้าพ่อเหล็ก “สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง”

การถอนสมอจากธุรกิจเหล็กของกลุ่ม "ทาทา" เป็นสัญญาณเตือนนักลงทุนให้ตระหนักว่า อย่าริอ่านเล่นกับหุ้นเหล็ก เพราะเป็นหุ้นหนัก พลาดท่าติดหุ้น จะแบกไม่ไหว

บางทีตัดขาดทุนขาย ยังต้องยอม ถ้าเห็นว่า ถือต่อไปแล้วไม่เห็นอนาคต อย่าว่าแต่หุ้นเหล็กเลย หุ้นอะไรก็ตาม ถ้าถือไว้แล้วไม่เห็นอนาคต ราคาไหนก็ต้องขายทิ้ง



กำลังโหลดความคิดเห็น