xs
xsm
sm
md
lg

#SAVE หลวงปู่แสง สนั่นโซเชียล แฉจัดฉากใส่ร้ายพระดี สายหลวงปู่มั่น อาจารย์ฟั่น “หมอ” ยัน ป่วยอัลไซเมอร์จริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ #SAVE หลวงปู่แสงสนั่นโซเชียล แฉจัดฉากใส่ร้าย? ขอบคุณข้อมูล-ภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
โซเชียลเดือด! แฉขบวนการจัดฉากใส่ร้าย หลวงปู่แสง พระธุดงค์สายหลวงปู่มั่น อาจารย์ฟั่น อายุมากสุดที่เหลืออยู่ เผยประวัติเกี่ยวข้องกับพระดังยาวเหยียด แพทย์ ผู้รักษาคอนเฟิร์มป่วย “อัลไซเมอร์” จริง ไม่รู้ตัวในสิ่งที่ทำ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (12 พ.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น โซเชียลเดือดสนั่น! แฉขบวนการ จัดฉากใส่ร้าย “หลวงปู่แสง” พบป่วยเป็นอัลไซเมอร์-เดินไม่ได้ อายุเกือบร้อยปี

จากกรณี นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนายโสธร และสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบ “หลวงปู่แสง ญาณวโร” พระเกจิชื่อดัง อายุ 98 พรรษา และป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ที่อาศัยอยู่ในที่พักสงฆ์ พื้นที่บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

ต่อมา ในสื่อสังคมออนไลน์ได้เกิดกระแสติดแฮชแท็ก #SAVEหลวงปู่แสง โดยเพจเฟซบุ๊ก “ราชสีห์ จิตอาสา” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

พระชรากับสีกา.. มันสมควรแล้วหรือ ต้องดูเจตนาของคนสร้างข่าว และขบวนการที่พาสีกาเข้าไปมีจุดประสงค์อะไร ผมยังคงศรัทธาท่าน พระกรรมฐานที่บวชเรียนกับหลวงปู่มั่น ท่านอายุเข้า ๑๐๐ปี พรรษาที่ ๗๖ เป็นศิษย์ที่มีอายุสูงสุดปัจจุบันนี้ของหลวงปู่มั่น ที่ยังมีชีวิตอยู่

#อ่านข่าวแล้วเศร้าใจ ฉันใดถึงกล้าบุกวัดพานักข่าวกระทำอันไร้ซึ่งการสัมมาคารวะและเหตุผลข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการไล่ท่านให้สึกจากการเป็นพระ คำพูดที่ลบหลู่ไล่ให้ท่านสึก โดยขาดการตรวจสอบและไตร่ตรองก่อน บทสรุปการขอโทษขอขมาคงไม่เท่ากับชดใช้กรรมที่ได้ก่อในครั้งนี้ ขอน้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์

ภาพ หลวงปู่แสง พระธุดงค์สายหลวงปู่มั่น อาจารย์ฟั่น อายุมากสุดที่เหลืออยู่ ขอบคุณข้อมูล-ภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ประวัติหลวงปู่แสง
หลวงปู่แสง ญาณวโร เดิมชื่อ นายแสง ดีหอม เกิดเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๔๖๗ อ.ฟ้าหยาด จ.อุบลราชธานี (๑๗ เมษายน ๒๔๘๒ กระทรวงมหาดไทย เปลี่ยนชื่อ อ.ฟ้าหยาด เป็น อ.มหาชนะชัย และเมื่อ ๑ มีนาคม ๒๕๑๕ อ.มหาชนะชัย ย้ายไปขึ้นกับ จ.ยโสธร จนถึงปัจจุบัน) อุปสมบทเมื่อ วันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๐ ณ วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น

ประวัติการจำพรรษา วิเวกธุดงค์และไปมาหาสู่กับพระรูปต่างๆ ศึกษาหลักธรรมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร (ช่วงบั้นปลายของท่านอาจารย์มั่นที่อยู่บ้านหนองผือ)

หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ จ.เลย (พ.ศ. ๒๔๙๔-๒๔๙๖)

พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ได้ร่วมสร้างวัดถ้ำขาม (พ.ศ. ๒๔๙๗)

หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย (๑ พรรษา)

หลวงปู่บัว สิริปุณโณ วัดราษฎร์สงเคราะห์ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี (๒๐ พรรษา)

พระอาจารย์แบน ธนากโร ได้ร่วมสร้างกุฏิศาลาที่วัดธรรมเจดีย์ จ.สกลนคร

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์

หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี ได้ร่วมธุดงค์ที่ภูวัว

หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ อ.วังสะพุง จ.เลย

หลวงปู่ศรี มหาวีโร ได้วิเวกธุดงค์ที่ภูเกล้า ภูเวียง จ.ขอนแก่น

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย - ได้วิเวกธุดงค์ด้วยกันที่วัดดอยหินหมากเป้ง

หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา จ.อุดรธานี ได้วิเวกธุดงค์ด้วยกันที่ อ.ผือ อ.สามพราน และ อ.น้ำโสม

พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, พระอาจารย์วัน อุตตะโม หลวงปู่หล้า เขมปัตโต และพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร ได้วิเวกธุดงค์ร่วมกันที่ถ้ำสาลิกา ภูสิงห์ ภูทอง ภูพานคำ และ ภูทอก ฯลฯ

หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร วัดป่าวังเลิง จ.มหาสารคาม ได้จำพรรษาด้วยกัน (พ.ศ. ๒๕๓๒-๒๕๓๓)

ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๔ - ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ จำพรรษา ที่วัดป่าอรัญญาวิเวก บ้านไก่คำ จ.อำนาจเจริญ

๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ - ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ จำพรรษาที่วัดป่าอิสิปตนมฤคทายวัน(เสนาสนป่าโคกค่าย) บ้านหนองไฮน้อย ต.หนองข่า อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ

๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ จำพรรษาที่วัดป่านาเกิ้งญาณวโร บ้านนาเกิ้ง อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ

๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ จำพรรษาที่ วัดป่ามโนรมย์สมประสงค์ (สำนักสงฆ์ภูทิดสา)
บ้านห้วยฆ้อง ตำบลหนองข่า อำเภอ ปทุมราชวงศา จัดหวัด อำนาจเจริญ

๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ สำนักสงฆ์บ้านเวินชัย อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร

ปัจจุบัน หลวงปู่แสง ญาณวโร จำพรรษา ที่ วัดป่าดงสว่างธรรม บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก อ. ป่าติ้ว จ.ยโสธร ปัจจุบันอายุ ๙๗ ปี พรรษา ๗๔ (พ.ศ. ๒๕๖๓)

ทุกเรื่องราวมักมีบทสรุปในตัวของมัน ขอน้อมกราบองค์หลวงปู่ท่านอย่างสุดใจ #อริยสงฆ์ห้าแผ่นดิน

อย่างไรก็ตาม นายสิทธา มูลหงส์ ผู้ตรวจราชการ และโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีข้อร้องเรียนถึงพฤติกรรมหลวงปู่แสง จนฺทโชโต (ญาณวโร) วัดป่าดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ที่มีการสัมผัสร่างกายสีกาที่เข้าไปกราบไหว้

ทั้งยังมีการอ้างว่า มีเลือด ปัสสาวะ สามารถกลายเป็นพระธาตุได้ ว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ยโสธร ร่วมกับฝ่ายปกครอง ประกอบด้วย นายอำเภอป่าติ้ว และปลัดอำเภอป่าติ้ว ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวที่พักสงฆ์ป่าดงสว่างธรรม บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

พบว่า ที่พักสงฆ์ดังกล่าว ยังไม่มีสถานะเป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ปัจจุบันมีพระภิกษุอยู่จำพรรษา 15 รูป มีพระแสง จนฺทโชโต อายุ 98 ปี พรรษา 72 เป็นหัวหน้าที่พักสงฆ์ สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุต ซึ่งที่พักสงฆ์ดังกล่าว ตั้งในเขตพื้นที่ป่าสงวน และอยู่ในขั้นตอนยื่นคำขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวน จำนวน 15 ไร่ เพื่อสร้างศาสนสถานสำหรับประเด็นข้อร้องเรียนดังกล่าวนั้น พระอุปัฏฐาก (พระผู้ดูแล) แจ้งว่า หลวงปู่เป็นโรคอัลไซเมอร์และมีอาการอาพาธ ไม่สามารถเดินได้ จะนั่งด้านหน้าบริเวณกุฏิเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระธรรมวินัย พศจ.ยโสธร จะได้นำกราบนมัสการเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอฝ่ายธรรมยุต เพื่อพิจารณา ผลเป็นประการใด จะมีการรายงานมายัง พศ.ต่อไป

ภาพ หลวงปู่แสง ที่แพทย์ ผู้รักษาคอนเฟิร์มป่วย “อัลไซเมอร์” จริง ขอบคุณข้อมูล-ภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะเดียวกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jean Songpon Yuensuk ของนายแพทย์ทรงพล ยืนสุข หรือ หมอยีนส์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลยโสธร ได้แชร์โพสต์ชื่อ “ชนะวุธ อุทโท” ของอาจารย์ลิ้ง เซียนพระขอนแก่น ที่ออกมาปกป้องหลวงปู่แสง โดย นพ.ทรงพล ได้ระบุข้อความยืนยันว่า

“ท่านมีภาวะหลงลืมจริงครับ ผมได้เข้าไปให้การรักษาท่านประจำ ท่านจำใครไม่ได้เลย ไม่รู้ตัวในสิ่งที่ทำด้วยซ้ำ ลุกนั่ง นอนเองยังไม่ได้เลย แค่ประคองธาตุขันธ์มาได้ขนาดนี้ก็เก่งมากๆ แล้วครับ”

ทั้งนี้ มีคอมเมนต์เข้ามาขอบคุณ นพ.ทรงพล ที่ช่วยยืนยันว่า หลวงปู่แสงป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และเป็นพลังช่วยกันปกป้องหลวงปู่ หมอออกมาคอนเฟิร์มขนาดนี้ เชื่อหมอวิทยาศาตร์บ้าง หมอผีบางเคสก็ควรพัก และหมอผีควรพักผ่อน อย่าหิวแสง ให้หมอจริงๆเขาทำงาน กลับไปทุบศาลพระภูมิเหมือนเดิมจะดีกว่า (จากไทยโพสต์)

แน่นอน, ประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจ ก็คือ การแยกแยก “ถูก-ผิด” ให้ออก และการตรวจสอบข้อกล่าวหาให้รอบด้าน และสุดท้ายคือ การระมัดระวังเรื่องด่วนสรุปในการใส่ร้ายพระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ ซึ่งในทางธรรมเป็นบาป ส่วนในทางโลกถือว่า ไม่ให้ความยุติธรรมอย่างถึงที่สุด

ที่สำคัญ หากท่านป่วยเป็น “อัลไซเมอร์” จริง ซึ่งหมอผู้การรักษาประจำ ก็ออกมายืนยันแล้ว ว่า จริง ก็เท่ากับว่า ท่านไม่อาจรับรู้สิ่งที่ท่านทำลงไปเลย ความผิดน่าจะอยู่ที่คนที่เข้าหา จะต้องรู้ว่า ท่านไม่เป็นตัวของตัวเอง หลงลืมทำในสิ่งที่ไม่รู้ตัว เหมือนมนุษย์ปุถุชนทั่วไปที่ป่วย “อัลไซเมอร์” และไม่สร้างความเสื่อมให้แก่พระสงฆ์ หรือ สร้างสิ่งที่จะทำให้ศรัทธามัวหมอง โดยเฉพาะมีคนจำนวนมากศรัทธา จนเท่ากับเป็นการเหยียบย่ำจิตใจได้เหมือนกัน

เพราะอย่าลืมว่า ตามประวัติถือว่า เป็นพระเกจิชื่อดังและพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของคนอีสาน ทั้งยังเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น พระอาจารย์ฟั่น ที่คนอีสานศรัทธาอย่างสูงด้วย
เหนืออื่นใด ต้องไม่ลืมด้วย ว่า ท่านไม่อาจแก้ข้อกล่าวหา ปกป้องตัวเองเรื่องนี้ได้ ก็ยิ่งต้องให้ความเป็นธรรมอย่างสูง อย่าคิดว่า บาปกรรมไม่มีจริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น