xs
xsm
sm
md
lg

“ธนาธร” ท้าเคลียร์ผู้ว่าฯสมุทรปราการ ต่อหน้า ปชช.ปมเบรก “คณะก้าวหน้า” อบรมครูเทศบาล “เก่ง” ท้าขับออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขณะอบรมหลักสูตรค่ายเทคโนโลยี ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จาก
งานเข้า ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ “ธนาธร” โพสต์จดหมายเปิดผนึกขอเคลียร์ต่อหน้า ปชช. ปมทำหนังสือถึงส่วนราชการ เบรก “คณะก้าวหน้า” อบรม coding ครูเทศบาล “เก่ง การุณ” ท้าพรรคนักรบห้องแอร์ขับออก

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (26 มี.ค.) เพจเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความระบุว่า

“[จดหมายเปิดผนึกถึงคุณวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ]

ก่อนอื่น ผมขอเท้าความให้พี่น้องประชาชนทุกท่านทราบถึงเหตุผลที่ผมต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ

คณะก้าวหน้าทำงานร่วมกับเทศบาลตำบลด่านสำโรง ในเรื่องการศึกษา โดยได้ให้คำปรึกษาและติดต่อประสานงานกับเอกชน เพื่อให้โรงเรียนอนุบาลด่านสำโรงได้มีหลักสูตรการเขียนโปรแกรมและการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติ สำหรับนักเรียน ป.4-ป.6 หลักสูตรวิชาใหม่นี้ จะเริ่มสอนเมื่อเปิดภาคการศึกษาในเดือนพฤษภาคม 2565

สัปดาห์ที่ผ่านมา เทศบาลจัดอบรมครูผู้สอนให้เข้าใจในหลักสูตรและสามารถสอนนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเชิญบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญมาเป็นผู้บรรยาย พร้อมกันนั้น ก็ได้เชิญผมมาพูดถึงความสำคัญของทักษะการเขียนโปรแกรมและทักษะการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติในโลกอุตสาหกรรมปัจจุบัน ในวันที่ 21 มีนาคม

ภาพ หนังสือผู้ว่าฯสมุทรปราการ ที่ นายธนาธรเอามากล่าวอ้าง ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เมื่อผมบรรยายเสร็จ ก็ได้โพสต์เล่าถึงการทำงานของเราและประโยชน์ที่ประชาชนด่านสำโรงจะได้รับในเพจของผม ในวันที่ 23 มีนาคม (สำหรับท่านที่สนใจโพสต์ต้นทาง สามารถอ่านได้ ที่ https://www.facebook.com/ThanathornOfficial/posts/525109782298269 )

หลังจากที่ผมบรรยายได้เพียงสองวัน คุณวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ส่งหนังสือ “ด่วนที่สุด” หานายอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีนคร และนายกเทศมนตรีเมืองทุกแห่งในจังหวัดสมุทรปราการ (ตามรูปจดหมายที่แนบมากับโพสต์นี้) โดยมีเนื้อหากำชับเทศบาลว่าการนำบุคลากรภายนอกมาจัดอบรมในโรงเรียน อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งส่อเจตนาว่าอาจต้องการสกัดกั้นการทำงานของคณะก้าวหน้า

ผมขอเรียนคุณวันชัย ใน 3 ประเด็น ดังนี้

1. การทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของเรา เป็นไปอย่างเปิดเผย นับตั้งแต่การเลือกตั้ง ผู้สมัครหรือกลุ่มผู้สมัครคนใดต้องการให้เราร่วมสนับสนุน ให้คำแนะนำในการบริหาร หรือนำนโยบายของเราไปใช้ ก็ใช้ชื่อของคณะก้าวหน้าสมัครเลือกตั้งอย่างเปิดเผย ประชาชนรับรู้โดยทั่วไปอย่างเป็นสาธารณะ เมื่อผู้สมัครได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เข้าไปดำรงตำแหน่งนายก เราก็เข้าร่วมให้คำปรึกษาแนะนำ ผลักดันโครงการต่างๆ อย่างเปิดเผย โปร่งใส ไม่เคยเรียกร้องผลประโยชน์ใด ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างบ้านสร้างเมืองที่ดีกว่านี้

หลายท้องถิ่นที่ทำงานร่วมกับเราก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เราสามารถช่วยพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ นำรายได้จากการท่องเที่ยวชุมชนไปสู่มือชาวบ้านได้จริง เราร่วมมือกับเทศบาลในการคัดแยกขยะ นำขยะเปลี่ยนเป็นสวัสดิการให้กับชุมชน รักษาสิ่งแวดล้อมได้จริง เราทำให้น้ำประปาดื่มได้ ประชาชนได้เข้าถึงน้ำประปาที่มีคุณภาพ ลดภาระ เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชนได้จริง

นโยบายเมืองอัจฉริยะ ก็เป็นวิสัยทัศน์ของนายกเทศมนตรีตำบลด่านสำโรง ที่ประกาศไว้ชัดเจนตั้งแต่การหาเสียงจนถึงการแถลงนโยบายต่อสภา

ถ้าประชาชนเห็นว่า การทำงานของคณะก้าวหน้าไม่มีประโยชน์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เขาก็ไปเลือกคนอื่น ขอให้คุณวันชัยเคารพการตัดสินใจของประชาชน ให้ประชาชนได้เลือกและตัดสินใจด้วยตัวของเขาเอง

2. ความเข้าใจเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมและชีวิตจริงที่นักเรียนต้องเผชิญเมื่อเรียนจบ สมัยที่ผมยังทำงานในภาคธุรกิจ ผมได้ผลักดันการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในสถานประกอบการตั้งแต่เมื่อ 20 ปี ที่แล้ว และสนับสนุนให้ช่างเทคนิคและวิศวกรของบริษัท สามารถออกแบบ เขียนโปรแกรมควบคุม และบำรุงรักษาระบบได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ บริษัทที่ผมบริหารงานมีหุ่นยนต์มากกว่า 1,000 ตัว นับได้ว่าเป็นระดับต้นๆ ของประเทศไทย

ดังนั้น ผมมีความเข้าใจในความสำคัญของหลักสูตรนี้ และสามารถอธิบายให้ครูเห็นภาพได้ว่านักเรียนจะเจออะไรบ้างในโลกของการทำงานจริงในอีก 10 ปีข้างหน้าของพวกเขา

หลักสูตรนี้มีประโยชน์ต่อนักเรียนและชุมชน โรงเรียนอนุบาลด่านสำโรงจะเป็นโรงเรียนระดับเทศบาลแรกๆ ของประเทศที่มีทั้งหลักสูตรเขียนโปรแกรมและหลักสูตรการพิมพ์สามมิติ เราช่วยให้คำปรึกษาในเรื่องอุปกรณ์การเรียนการสอนอย่างดี ซึ่งมีราคาเหมาะสม ทั้งหลักสูตรลงทุนไปไม่ถึง 5 แสนบาทด้วยเงินของเทศบาลเอง เอกชนที่เราติดต่อให้มาอบรม ก็มาด้วยความสมัครใจช่วยเหลือ ไม่คิดค่าใช้จ่ายในการอบรมใดๆ

นักเรียนทั่วไปจะได้ความเข้าใจเบื้องต้นสำหรับต่อยอดในการใช้ชีวิตในอนาคต ส่วนนักเรียนที่ถนัดด้านการคำนวณ อาจได้แรงบันดาลใจให้เรียนจบไปเป็นวิศวกรหรือนักเขียนโปรแกรม ซึ่งเป็นอาชีพที่เงินเดือนสูงสุดในตลาด จากการสำรวจตลาดแรงงานของบริษัทที่ปรึกษาด้านบุคคลชั้นนำ พบว่านักเขียนโปรแกรมจบใหม่ สามารถหางานเงินเดือนได้ถึงเดือนละ 40,000 บาทเลยทีเดียว

ผมอยากให้คุณวันชัย ตระหนักว่า นักเรียนในโรงเรียนเทศบาลตำบลด่านสำโรงส่วนใหญ่มาจากครัวเรือนที่มีฐานะปานกลางถึงยากจน พ่อแม่ส่วนใหญ่ทำอาชีพพนักงานในโรงงาน บริษัทเอกชน หรือเป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาด การเตรียมนักเรียนให้เท่าทันโลกสมัยใหม่ จึงสำคัญต่อการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ให้พวกเขาได้มีโอกาสไขว่คว้าชีวิตที่ดีขึ้น เท่าเทียมกับลูกหลานของคนมีฐานะ

ดังนั้น การจำกัดสกัดกั้นการทำโครงการห้องเรียนเทคโนโลยีของเทศบาลด่านสำโรง จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อครู นักเรียน พ่อแม่ ชุมชน และอนาคตของด่านสำโรงเลย

3. ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายที่คุณวันชัยกล่าวอ้าง ผมเรียนคุณวันชัยว่า การอ้างระเบียบกระทรวงดังกล่าว เป็นการอ้างอย่างผิดฝาผิดตัว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความเป็นอิสระเรื่องการบริหารงานบุคคล โดยสามารถที่จะใช้ดุลยพินิจเลือกจัดอบรมบุคลากรในสังกัดได้ หากเรื่องที่อบรมบุคลากรเกี่ยวกับการพัฒนา หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่

ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย เคยออกหนังสือ ด่วนมาก ที่ มท 0808.3/ว 611ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2546 กำหนดหลักเกณฑ์การเบิกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมที่จะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมตลอดจนค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการจากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้จะต้อง (1) เป็นการฝึกอบรมของกระทรวงมหาดไทยตามข้อเสนอของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (2) เป็นการฝึกอบรมของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (3) เป็นการฝึกอบรมที่มีข้อตกลงร่วมกันหรือจัดร่วมกันกับกระทรวงมหาดไทยหรือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ซึ่งจะได้แจ้งให้ทราบเป็นคราวๆ ไป

หนังสือของกระทรวงมหาดไทย ฉบับดังกล่าว ศาลปกครองสูงสุดได้เคยมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.291/2546 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.61/2549 ว่า เป็นการออกหลักเกณฑ์ที่ ขัดต่อความเป็นอิสระของเทศบาลในการกำหนดนโยบายการปกครอง การบริหารงานบุคคล การเงินและการคลัง เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ที่มิได้เป็นไปเพื่อรักษาประโยชน์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประโยชน์ของประเทศโดยส่วนรวม และกระทบถึงสาระสำคัญแห่งหลักการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น

ปัจจุบันนี้ ท้องถิ่นสามารถจัดส่งบุคลากรเข้ารับการอบรมที่จัดขึ้นทั้งโดยเอกชน มูลนิธิ สมาคมต่างๆ เป็นจำนวนมาก และสามารถเชิญบุคคลมาบรรยายให้ความรู้แก่บุคลากรในสังกัด โดยไม่ต้องจัดส่งเข้ารับการอบรมกับหน่วยงานอื่น

การให้ความรู้แก่ องค์กรปกครองท้องถิ่นโดยคณะก้าวหน้า ล้วนแต่มีเนื้อหาสาระความรู้ที่เกี่ยวกับการพัฒนา หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ทั้งสิ้น คณะก้าวหน้าได้เข้าอบรมเพิ่มความรู้และประสิทธิภาพในการให้บริการสาธารณะแก่ท้องถิ่นอื่นๆ มาแล้วหลายจังหวัด ก็ไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น

คณะก้าวหน้าเป็นคณะบุคคลที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 42 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันเป็นสมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กร ชุมชน หรือหมู่คณะอื่น” ดังนั้น การที่จังหวัดสมุทรปราการห้ามมิให้องค์กรปกครองท้องถิ่นรับการอบรมจากคณะก้าวหน้า หรือจากเอกชนรายใดรายหนึ่ง นอกจากจะขัดต่อความเป็นอิสระในการกำหนดนโยบายการบริหารงานบุคคลของท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นการเลือกปฏิบัติซึ่งขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 อีกด้วย

ภาพ ขณะคณะก้าวหน้ากำลังอบรมฯ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เพื่อปรับความรับรู้ความเข้าใจต่อโครงการนี้ และการทำงานของคณะก้าวหน้ากับเทศบาล ผมขอเวลาเข้าพบคุณวันชัย โดยถ่ายทอดสดการสนทนาของเราให้ประชาชนรับทราบ และอาจเชิญผู้บริหารเทศบาลเข้าร่วมด้วยก็ได้ตามแต่ความสะดวกใจของท่าน เพื่อให้ประชาชนและข้าราชการได้หายสงสัย คลายกังวลกับหนังสือดังกล่าว ด้วยความสุจริต จริงใจ

สุดท้ายนี้ ผมเรียนคุณวันชัยว่า ผมอาจเป็นภัยต่อเผด็จการ แต่ผมไม่ใช่ภัยคุกคามของประเทศไทยแน่ ผมตั้งใจทำงานการเมืองเพื่อสร้างประเทศไทยที่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสิทธิเสรีภาพ ประเทศไทยเจริญเติบโตทัดเทียมกับนานาชาติ

เราอาจมีอุดมการณ์การเมืองต่างกันได้ ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องปกติของสังคม แต่การใช้อำนาจหน้าที่อย่างเลือกปฏิบัตินั้น นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเสียโอกาสในการพัฒนาสังคม เรื่องที่ประชาชนได้ประโยชน์ เราสามารถหาจุดร่วมกันได้ ผมเชื่อว่าองค์ความรู้และประสบการณ์ของคณะก้าวหน้า มีประโยชน์และช่วยพัฒนาประเทศได้อีกมาก ส่วนที่เราเห็นต่างกันนั้น ผมขอให้ท่านใช้กระบวนการเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งเป็นกลไกหาทางออกอย่างสันติตามครรลองที่ระบอบประชาธิปไตยควรจะเป็น

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
26 มีนาคม 2565”

ภาพ นายการุณ โหสกุล ขอบคุณข้อมูล-ภาพ จากเฟซบุ๊ก เก่ง การุณ
ขณะเดียวกัน นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เก่ง การุณ แนบภาพถ่ายตัวเองที่ยืนหันหลัง สวมเสื้อด้านหลังเป็นลายเสือ พร้อมกับเขียนข้อความว่า หน้าเนื้อ หลังเสือ #ดอนเมืองไม่ทิ้งกัน #การุณไม่ทิ้งใคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากโพสต์ข้อความไปแล้ว มีผู้คนมาร่วมแสดงความคิดเห็นกรณีนายการุณ ที่โพสต์ข้อความก่อนหน้า ระบายความรู้สึก ในทำนองโดนบีบจากนักรบห้องแอร์ ที่อยากจะบีบให้ย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งผู้ที่มาแสดงความเห็นมีทั้งกลุ่มคนที่เห็นด้วย และเห็นต่างกับนายการุณ

ที่น่าสนใจหนึ่งในคอมเมนต์ ระบุ ถ้าแน่จริงลาออกไปเลย โดยนายการุณ ได้เข้ามาตอบกลับว่า “อยากลาออกครับ แต่กลัวรัฐสูญเสียเงินเลือกตั้งซ่อมครับ ช่วยไปบอกให้เค้าขับออกหน่อยสิครับ” (จากไทยโพสต์)

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ และน่าวิเคราะห์ ก็คือ กรณี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ส่งหนังสือ “ด่วนที่สุด” หานายอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายกเทศมนตรีนคร และนายกเทศมนตรีเมืองทุกแห่งในจังหวัดสมุทรปราการ โดยมีเนื้อหากำชับเทศบาลว่า การนำบุคลากรภายนอกมาจัดอบรมในโรงเรียน อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย

ที่นายธนาธร เห็นว่า ส่อเจตนาว่าอาจต้องการสกัดกั้นการทำงานของคณะก้าวหน้า นี่คือ ประเด็นสำคัญ

ความจริง ที่มาเป็นอย่างไร ต้องให้ผู้ว่าฯสมุทรปราการ ออกมาชี้แจง หรือ ต้องรอว่า จะให้นายธนาธร เข้าพบ และมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้รับรู้ร่วมกัน ตามที่นายธนาธรต้องการหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ปัญหาใหญ่ที่คณะก้าวหน้าถูกจับตามองเกี่ยวกับการจัดอบรมนักเรียนในโรงเรียน ก็คือ การแฝงประโยชน์ทางการเมืองเข้าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการดึงเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง ขายความคิดทางการเมือง ซึ่งเคยมีเรื่องร้องเรียนในทำนองนี้ แต่ก็ไม่แน่ว่า การอบรมครูเทศบาลดังกล่าว จะมีประเด็นการเมืองหรือไม่

ดังนั้น เพื่อให้ทุกอย่างโปร่งใส ดีที่สุดคือ ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีการพูดคุยปรับความเข้าใจกัน ส่วนจะถ่ายทอดให้ประชาชนได้รับรู้หรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เพราะข้อเสนอถ่ายทอดสดต่อประชาชน นี่แหละจะเป็นการหวังผลทางการเมือง โดยอาจต้องการดิสเครดิตฝ่ายอำนาจรัฐ ให้ประชาชนเห็นก็เป็นได้ ทั้งยังอาจตีกระทบไปถึงผู้มีอำนาจว่า อยู่เบื้องหลังหรือไม่ รวมทั้งสะท้อนธาตุแท้ของ “เผด็จการ” ซึ่งอาจเป็นประเด็นใหญ่เกินจริง

อย่าลืมว่า คณะก้าวหน้า จะทำอะไรที่สื่อสารกับประชาชน ก็ต้องให้เข้ากับ “ยุทธศาสตร์” การต่อสู้ นั่นคือ ต่อต้านเผด็จการ งานนี้ก็ไม่แน่ อาจมีใครตกเป็นเหยื่อ ก็เป็นได้ หรือว่าไม่จริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น