“ธนกร” จวก “สุดารัตน์” สร้างภาพไปวันๆ จนนางเอกละครยังอาย ยืนยันรัฐบาลบริหารจัดการโควิด-19 เป็นระบบ ไม่ได้ล้มเหลว วอนเลิกเล่นการเมืองบนความทุกข์ประชาชน
วันนี้ (16 เม.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำกลุ่มไทยสร้างไทย ระบุว่ารัฐบาลสอบตกแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า ตนเคยบอกคุณหญิงสุดารัตน์ไปหลายครั้งแล้วว่ารัฐบาลทำงานแข่งกับเวลา บริหารจัดการโควิด-19 อย่างเป็นระบบผ่าน ศบค. ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณหญิงสุดารัตน์ซึ่งเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่กลับไม่เชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม บริหารจัดการโควิด-19 ผ่านการประชุมหารือของ ศบค.ที่มีอาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญเป็นคณะกรรมการ สิ่งที่คุณหญิงสุดารัตน์นำเสนอมานั้นรัฐบาลก็ดำเนินการไปหลายอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติม การเร่งกระจายฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้จำนวนมากขึ้นในแต่ละวันอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ การเร่งตรวจเชิงรุก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการมานานแล้ว หรือการจัดทำโรงพยาบาลภาคสนาม
นายธนกรกล่าวอีกว่า คุณหญิงสุดารัตน์เป็นผู้อาวุโสทางการเมือง แต่ยังมีพฤติกรรมเดิมๆ เล่นการเมืองโดยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของประชาชน ออกมาแต่ละครั้งนางเอกละครยังอาย การเมืองต้องลงมือทำเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่นิยมสร้างภาพไปวันๆ ที่สำคัญสถานการณ์โควิด-19 แม้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลก็มีการปรับแผนอยู่ตลอดเวลา เพราะสถานการณ์มีความเป็นพลวัต รัฐบาลติดตามอย่างใกล้ชิด การที่คุณหญิงสุดารัตน์ออกมาตำหนิรัฐบาล ตำหนิ ศบค. มันบั่นทอนกำลังใจคนทำงาน โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ตนผิดหวังกับคุณหญิงสุดารัตน์มากที่ชื่นชมการจัดการโควิด-19 ของต่างประเทศแล้วมาติติงว่ารัฐบาลไทยบริหารล้มเหลว ทั้งๆ ที่ผ่านมาทั่วโลกต่างชื่นชมการบริการโควิด-19 ของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างไรก็ตาม อยากถามคุณหญิงสุดารัตน์ว่าใช่เวลาของการเล่นการเมืองหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ทราบหรือว่าท่านนายกฯ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ไม่อยากเห็นคุณหญิงสุดารัตน์เล่นการเมืองแบบพรรคเพื่อไทย เพราะคุณหญิงสุดารัตน์สร้างพรรคใหม่แล้ว การสลับหน้าออกมาโจมตี ดิสเครดิตรัฐบาลเป็นการเมืองน้ำเน่าเรียกพี่ ไม่ใช่การเมืองยุคใหม่ ขอให้กลับไปคิดใหม่ ไม่เช่นนั้นประชาชนจะไม่ศรัทธา
