แม่ทัพภาคที่ 1 ยอมรับสถานการณ์วันนี้ล่อแหลมอันตราย สั่งกระจายกำลังทหารนับพันควบคุม-อารักขาสถานที่สำคัญรวมทั้งสื่อโทรทัศน์ทั่วกรุงเทพฯ แล้ว ขณะที่นายกฯ ถึงไทยแล้ว เตรียมนั่งบัญชาการคุมสถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ (30 พ.ค.) พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 (มทภ.1) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นว่า ล่าสุดได้มีคำสั่งให้กำลังทหารกว่า 1,000 นายกระจายกำลังเข้าดูแลความปลอดภัยตามสถานที่เสี่ยง เช่น สถานีโทรทัศน์ทั้ง 6 ช่อง รวมทั้งพีทีวี และเอเอสทีวี
นอกจากนี้ยังมีการส่งกำลังทหารไปรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารสถานที่สำคัญที่ให้บริการด้านสาธารณูปโภคทั่วกรุงเทพมหานคร ตามที่ได้รับการร้องขอแล้ว พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ โดยยอมรับว่าสถานการณ์ในวันนี้ล่อแหลมที่จะเกิดความวุ่นวาย
ส่วนรายงานกลุ่มคนที่เดินทางถึงกรุงเทพฯ ล่าสุดหน่วยข่าวแจ้งว่า มีประมาณ 2,000 คน ขณะที่ม็อบพีทีวี และม็อบอื่นๆ มีรายงานว่าน่าจะมีประมาณ 4,000-5,000 คน
ทั้งนี้ ทางฝ่ายความมั่นคงได้สนธิกำลังทั้ง 4 เหล่าทัพอัยประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ อากาศ และตำรวจ ตามแผน “พิทักษ์ 1” โดยมีการเตรียมกำลังในที่ตั้งและกระจายกันอารักขาสถานที่สำคัญทั่วประเทศประมาณ 1 หมื่นคน เพื่อรับมือสถานการณ์อย่างเข้มงวด
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าหากสถานการณ์บานปลายจนก่อให้เกิดความรุนแรงจะมีการประกาศภาวะฉุกเฉินได้ทันที โดยมีรายงานว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางกลับจากประเทศจีนถึงกรุงเทพฯ แล้วตั้งแต่เมื่อเวลา 23.00 น.เศษเมื่อคืนที่ผ่านมา และในวันนี้ (30 พ.ค.) จะเดินทางไปรับฟังสถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล
ก้อนหน้านี้ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่งคงแห่งชาติ (คมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมว่า การเตรียมการต่างๆ เป็นเรื่องปกติ ทั้งในเรื่องของจำนวนกำลังพลที่เคลื่อนนั้นไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบจำนวนกับการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ได้ เพราะการใช้กำลังนั้นขึ้นอยู่กับแผนและสถานการณ์ และปรับไปตามขั้นตอนของความรุนแรงซึ่งเป็นแผนทั่วไปของทหาร
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่ามีการส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าจับตาเป็นพิเศษกับกลุ่มแกนนำพรรคการเมืองและแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมจริง โดยเป็นในระดับที่สามารถจู่โจมเข้าถึงตัวได้ทันทีหากเกิดเหตุการณ์วิกฤต โดยจะปฏิบัติตามขั้นตอนของแผนพิทักษ์ 1 ที่วางไว้ และจะไม่มีการใช้กำลัง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่พยายามจะป้ายสีให้เห็นว่าทหารเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในประเทศ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะไม่มีอะไร เพราะแกนนำและหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ แสดงให้เห็นแล้วว่าคิดดี
/0110