เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา สำหรับ NEW MG HS PHEV รถยนต์สปอร์ตพรีเมี่ยมเอสยูวี ที่ถึงเวลาต้องไมเนอร์เชนจ์หลังทำตลาดมาได้ประมาณ 2 ปี อัปหน้าใหม่สปอร์ตไฉไลกว่าเดิม พร้อมเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้มากขึ้น กับสนนค่าตัว 1,299,000 - 1,379,000 บาท
ภายนอกเปลี่ยนใหม่ ไล่ตั้งแต่กระจังหน้าลายเปลวไฟ Digital Burning Grille ร้อนแรงดุดัน, ไฟหน้า Quad LED Projector สว่างไสวไฮเทค, กันชนหน้าทรงสปอร์ต 3 ช่อง ดีไซน์ใหม่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม, ล้อลายใหม่ 10 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว, ไฟท้ายลายใหม่ Full LED และกันชนท้ายดีไซน์ใหม่ ปลายท่อคู่ทรงสี่เหลี่ยมคางหมู พร้อมดิฟฟิวเซอร์ในตัว
ภายในหรูหรากว้างขวาง มิติตัวถัง 4,574 x 1,876 x 1,664 มม. จัดอยู่ในกลุ่ม C-Segment ก้าวขึ้นลงสะดวก ไม่ต้องโหน ฐานล้อยาว 2,720 มม. นั่งทางไกลสบาย ๆ เบาะนั่งทรงบักเก็ตซีท หุ้มด้วยหนังอัลคันทารา ให้สัมผัสนุ่มนวล ปรับตำแหน่งด้วยไฟฟ้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อมแพดเดิลชิฟต์ จอเรือนไมล์ขนาด 12 นิ้ว หน้าจอกลางทัชสกรีนขนาด 10 นิ้ว แอร์อัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้ายขวา พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง และระบบกรองอากาศ PM 2.5 หลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ ให้ความโปร่งโล่งสบาย ไม่อึดอัด ห้องโดยสารเงียบสนิทด้วยเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน NVH Luxury Silence Space พร้อมดื่มด่ำความสุนทรีย์อย่างเต็มที่กับระบบเสียงเซอร์ราวด์ BOSE 8.1 Sound System
ด้านสมรรถนะ ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดรวม 284 แรงม้า แรงบิดสุงสุดรวม 480 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มีปุ่ม Super Sport แยกต่างหาก เอาไว้ใช้ยามต้องการรีดกำลังสูงสุด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือ MG ใช้คำว่า "รถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระบบขับเคลื่อน Hybrid รองรับ" ในการแนะนำ MG HS PHEV ทำให้หลายคนอาจจะสงสัยว่า จริง ๆ แล้ว MG HS PHEV เป็นรถไฟฟ้า 100% หรือรถไฮบริดกันแน่? ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของ MG สรุปได้ว่า MG HS PHEV เป็นรถไฮบริด แต่ด้วยความที่เป็น PHEV หรือ Plug-in Hybrid ทำให้มีความต่างไปจากไฮบริดทั่วไป คือ 1) เสียบปลั๊กชาร์จได้ 2) มีโหมด EV ให้เลือกใช้ โดยสามารถวิ่งไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุดถึง 67 กิโลเมตร ตรงจุดนี้เองที่ทาง MG หยิบยกมาใช้และเรียก MG HS PHEV ว่าเป็น "รถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีระบบขับเคลื่อน Hybrid รองรับ"
เรื่องความปลอดภัยต้องยกนิ้วให้ เพราะ NEW MG HS PHEV มีระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ (Advanced Synchronized Protection System) พร้อมระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่า TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉืนอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake) ที่เพิ่มเติมเข้ามา ในโฉมล่าสุดนี้ เพื่อความปลอดภัยที่ดียิ่งกว่า
MG ถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการเชื่อมต่อระหว่างคนกับรถ เป็นเจ้าแรกที่ให้เราสั่งงานรถด้วยเสียงภาษาไทยได้ผ่านเทคโนโลยี “i-SMART” ซึ่งสามารถอัปเวอร์ชันผ่าน FOTA (Firmware-Over-The-Air) ได้ ไม่ต้องลำบากพาเข้าศูนย์ฯ เวอร์ชันล่าสุดมาพร้อมระบบนำทางเสมือนจริง (AR Navigation) ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ระหว่างกล้องหน้ารถที่ถ่ายทอดสภาพแวดล้อมจริงในขณะเดินทาง กับระบบนำทาง ช่วยให้การใช้งานระบบนำทางแม่นยำยิ่งขึ้น
อีกฟีเจอร์หนึ่งของ i-SMART ที่น่าสนใจคือ ระบบกุญแจดิจิตอล (Digital Key Technology) เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือให้กลายเป็นกุญแจรถ สะดวกมากเวลาทำกุญแจรถหาย ไม่ต้องเรียกแท็กซี่กลับบ้านไปเอากุญแจสำรอง หรือให้คนที่บ้านเอากุญแจสำรองมาส่ง นอกจากนี้ยังแชร์กุญแจดิจิตอลให้เพื่อนหรือคนในครอบครัว เพื่อนำรถไปใช้ได้ สะดวกสบาย ไม่ต้องใช้กุญแจตัวจริง
นอกจากนี้ i-SMART ยังใช้ค้นหารถได้ เวลาที่เราลืมว่าจอดรถไว้ที่ไหน สั่งสตาร์ทรถเปิดแอร์รอได้ เช็คสถานะได้ ล็อกรถหรือยัง? ปิดหน้าต่างหรือยัง? ถ้ายังก็สั่งล็อกสั่งปิดได้ ไม่ต้องเดินไปที่รถให้เมื่อย เช็คสถานะความพร้อมของรถได้ เช็คระดับน้ำมันหรือระดับไฟในแบตเตอรี่ได้ ค้นหาปั๊มน้ำมันหรือสถานีชาร์จและนำทางเราไปยังสถานีได้ ขณะชาร์จก็เช็คได้ว่าเต็มหรือยัง อยู่ระดับไหนแล้ว เต็มแล้วก็มีข้อความเตือนให้ไปถอดปลั๊ก และอื่น ๆ อีกมากมาย สะดวกสบายสุด ๆ
NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็นรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น C ราคา 939,000 บาท, รุ่น D ราคา 1,089,000 บาท และรุ่น X ราคา 1,159,000 บาท และรุ่น PHEV จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น PHEV รุ่น D ราคา 1,299,000 บาท และ รุ่น PHEV รุ่น X ราคา 1,379,000 บาท โดยมีสีภายนอกให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีแดง (Scarlet Red) และสีภายในอีก 2 สี ได้แก่ สีดำ และ สีขาว-น้ำเงิน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 หรือเว็บไซต์ MG Thailand , Facebook : MG Thailand , Youtube : MG Thailand , Instragram : MG Thailand และ Line : MG Thailand
