xs
xsm
sm
md
lg

8 องค์กรท่องเที่ยวพัทยาขอวัคซีน 9 แสนโดสก่อนสิ้นปี ชี้เปิดท่องเที่ยวไม่ได้พังทั้งระบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวศรีราชา - ดิ้นอีกเฮือก! 8 องค์กรท่องเที่ยวพัทยาเข้าพบผู้ว่าฯ เดินหน้าผลักดันโครงการ Pattaya Moves On - Seal Route พัทยา-สัตหีบ ให้ทันในเดือน ส.ค. ชี้หากเริ่มไม่ได้ในฤดูท่องเที่ยวปีนี้อนาคตเศรษฐกิจถึงขั้นวิกฤต ชี้วัคซีน 9 แสนโดสจำเป็นสุด

วันนี้ (20 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายชัยรัตน์ รัตโนภาส ประธานชมรมเวลเนส แอนด์สปาเมืองพัทยา ถึงความคืบหน้าการผลักดันโครงการ Pattaya Move on ซึ่งเมืองพัทยา ร่วมกับ ททท. และภาคธุรกิจในพื้นที่มีแนวคิดจัดทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวรองรับนโยบายการเปิดประเทศภายใน 120 วันของรัฐบาล และเพื่อให้ทันฤดูกาลท่องเที่ยวที่ใกล้มาถึงในช่วงปลายปี

พร้อมเดินหน้าแผนงานสนับสนุนในลักษณะ Seal Route หรือการกำหนดกลุ่มนักท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวและเส้นทางท่องเที่ยวเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อให้ปลอดภัยจากการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 และยังถือเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของพัทยา

หลังผู้ประกอบการทุกภาคส่วนต้องประสบปัญหาความซบเซาทางเศรษฐกิจจนขาดสภาพคล่องทางการเงินมานานกว่า 2 ปี และยังทำให้ธุรกิจบริการในหลายประเภทต้องปิดชั่วคราวและปิดถาวรไปแล้วกว่า 80%


ล่าสุด ตัวแทนจาก 8 องค์กรภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการของเมืองพัทยา ได้เข้าพบ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ที่ก่อนหน้านี้ ได้ออกประกาศผ่อนปรนมาตรการควบคุมในพื้นที่หลายแนวทางเพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าได้

โดย นายชัยรัตน์ เผยว่า เมืองพัทยามีความแตกต่างจากพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ โดยเฉพาะ ภูเก็ตและสมุย ที่มีลักษณะเป็นเกาะ จนสามารถจัดทำการท่องเที่ยวแบบ Sand Box เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

แต่เนื่องจากเมืองพัทยา เป็นสถานที่เปิดที่มีการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงมีแนวคิดจัดทำการท่องเที่ยวแบบ Seal Route ที่สามารถระบุกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสให้เข้าพักสถานที่เข้าพักตามเส้นทางเฉพาะใน 2 อำเภอหลักคือ บางละมุง และสัตหีบ

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือการผลักดันวัคซีนโควิด-19 เข้ามาในพื้นที่เพื่อฉีดให้ประชาชนให้ได้ไม่น้อยกว่า 70% ซึ่งคาดว่าต้องใช้วัคซีนประมาณ 9 แสนโดส เพื่อให้ครอบคลุมประชากรประมาณ 4.5 แสนคน


นายชัยรัตน์ ยังเผยอีกว่า การเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเสนอแนวคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดเดินระบบโครงการ Pattaya Move on หรือ Seal Route ที่จะต้องทำให้ได้ภายในเดือน ส.ค.นี้ เพื่อเป็นการทดลองการทำงานป้องกันปัญหาที่อาจเกิดหากเปิดประเทศจริง

“เพราะหากเริ่มโครงการในเดือน ต.ค. อาจไม่ทันต่อการรองรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งโครงการนี้ถือว่ามีความสำคัญและต้องร่วมกันผลักดันเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยหากสถานการณ์ยังคงไม่มีความชัดเจนและดำเนินการไม่ทันในฤดูกาลท่องเที่ยวปี 64 นี้ คาดว่าเมืองพัทยาจะต้องเจอกับปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างสาหัส และผู้ประกอบการส่วนใหญ่คงจะแบกรับภาระต่อไปไม่ไหว” นายชัยรัตน์ กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น