“อัจฉริยะ” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าพบอัยการนนทบุรี จี้คดีแจ้งความแซนให้การเท็จ อ้างมีหลักฐานแตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือ ตามคำให้การแซน เชื่อทำให้คดีแตงโมพลิก
วันนี้ (11 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการนนทบุรี อำเภอเมือง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปพบอัยการนนทบุรี เพื่อปรึกษาคดีแตงโมในเรื่องที่ตนเคยแจ้งความกับแซน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ที่ตนแจ้งความคุณแซน คดีของตนจะเป็นตัวแปร สามารถพลิกคดีได้ เพราะฉะนั้นถ้าพิสูจน์ได้ว่า คุณแซนให้การเท็จ มันจะทำให้ผลของคดีหลักมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น จะมาเรียนปรึกษาท่านอัยการว่าให้รอคดีของตนก่อนได้ไหม เพราะว่ายังพอมีเวลา ตนได้นัดพนักงานสอบสวนภาค 1 วันที่ 17 พฤษภาคม จะเรียนปรึกษาท่านอัยการจังหวัดนนท์ ว่า มีความเห็นอย่างไร ส่วนหลักฐานสำคัญถ้าแตงโมไม่ได้จับขาคุณแซน และแตงโมไม่ได้ผลัดตกหลังเรือ ตรงนี้มันจะกลายเป็นคุณแซนให้การเท็จต่อพนักงาน ส่วนที่ตำรวจตั้งไว้ว่าแตงโมตกท้ายเรือ ก็จะไม่เป็นความจริง คดีจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ส่วนหลักฐานเราจะให้ตำรวจภูธรภาค 1 กลับคดีมันยาก สู้เรามามุ่งเน้นรวบรวมพยานหลักฐานและส่งให้ ตำรวจภูธรภาค 1 ส่งให้อัยการ โดยรวมมีผู้บัญชาการหลายท่าน มาเป็นพยานในคดีหลัก ที่เรากล่าวโทษคุณแซนไว้ที่กองปราบปราม
ตอนนี้จะมุ่งเน้นตรงนี้เป็นหลัก ทำทุกวิถีทางที่ทำได้ ตามกำลังที่มี อย่าลืมว่าตนไม่มีอำนาจ ทำได้แค่รวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนมีความเห็นอย่างไรก็ว่าไป ว่ากันในชั้นพนักงานอัยการ เชื่อมั่นว่า สิ่งที่เราจะนำหลักฐานทั้งหมด เข้าสู่กระบวนการสอบสวนจะเป็นทางออกที่ดี ที่มาคานอำนาจของตำรวจและพนักงานอัยการ ให้รอความเห็นที่เรามีการกล่าวหาคุณแซนก่อน เพราะถ้าคุณฟ้องไปแล้วแล้วสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณแซนให้การเท็จ มันจะทำให้คดีเกิดปัญหาทันที ตนมีพยานอย่างเช่น ผู้เชี่ยวชาญ คือ อาจารย์ธวัชชัย และคุณหญิงหมอพรทิพย์ และผู้เชี่ยวชาญของเราที่ทำเรื่อง GPS และเรื่องภาพเงาและแสงต่างๆ มีผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นที่เป็นคนกลางและผู้เชี่ยวชาญเรือ ที่เรามั่นใจว่า ไม่ได้เกิดจากการตกท้ายเรือแน่นอน วันนี้ตนแค่มาปรึกษาจะยื่นเป็นทางการภายในสัปดาห์หน้า ต้นยังมีหลักฐานอีกมากเกี่ยวกับคดีนี้ในมือของเรา ที่ยังไม่ได้เปิดออกไปอีก 2 ชุด ส่วนที่ทนายเดชาบอกว่ามีหมายจ่อหลายคดี ตนคิดว่าทางตำรวจภูธรภาค 1 คงไม่ทำหรอก ตนมั่นใจว่า ผบ.ตร. ก็ไม่ทำ เขารู้จักกันมานาน รู้ว่าตนทำเพื่อแผ่นดิน การทำงานครั้งนี้ตนไม่ได้มีอะไรแอบแฝง ท่านก็รู้เพียงแต่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ระหว่างตำรวจกับตน สิ่งที่ตนพูดเป็นความจริงและตนก็รับผิดชอบกับสิ่งที่ตนทำ