xs
xsm
sm
md
lg

CRG เข้าซื้อหุ้น 51% "ฟู้ดซีเลคชั่น" ปั้นนิวโมเดล “ชินคันเซ็น ซูชิ” สู่ 2 พันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - ซีอาร์จี จับมือ ชินคันเซ็น ซูชิ เข้าร่วมทุน 51% ในเดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด ต่อยอดธุรกิจสร้างการเติบโตร่วมกัน เล็งปั้นร้าน Format ใหม่ ต่อยอดสินค้าแบบ Grab & Go รวมถึงมองโอกาสในการขยายสาขาในศูนย์การค้า คาดการณ์ 3 ปีจะมีจำนวนสาขาทั่วประเทศ 60-70 สาขา และสามารถสร้างยอดขาย 2,000 ล้านบาท

นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ “ซีอาร์จี” เปิดเผยว่า ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นและสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น ในบริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด (The Food Selection Group Co.,Ltd (TFSG)) ซึ่งดำเนินกิจการผลิต และจำหน่ายอาหารญี่ปุ่น และเครื่องดื่ม ภายใต้ชื่อทางการค้า “ชินคันเซ็น ซูชิ” (Shinkanzen Sushi) และ “เซ็นมะ ซูชิ” (Senma Sushi) โดยเข้าถือหุ้น 51% ตอกย้ำกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโต ผนึกกำลังพันธมิตรกับผู้ประกอบการร้านอาหารเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพมาขยายธุรกิจ โดยใช้จุดแข็งทั้งสองฝ่ายสร้างการเติบโตไปด้วยกัน หรือเกิด Win-Win strategy โดยบริษัทมีจุดแข็งช่วยเสริมแกร่งพันธมิตรหลายด้าน เช่น มีอีโคซิสเท็มรองรับ มีการดำเนินงานที่ดี แนวทางการปฏิบัติงานเป็นเลิศ ระบบหลังบ้านต่างๆ ช่วยสร้างประโยชน์ และซินเนอร์ยีด้านต้นทุน เอื้อให้การขยับขยายธุรกิจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น

โดยตัดสินใจเข้าร่วมทุนกับเดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด ด้วยมองว่าแบรนด์ ชินคันเซ็น ซูชิ มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอของซีอาร์จีได้ด้วย ชินคันเซ็น ซูชิ มีจุดเด่นเป็นอาหารญี่ปุ่น ที่เน้นการขายซูชิ และมองว่าตลาดอาหารญี่ปุ่นมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย และเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่


สำหรับแผนการขยายธุรกิจ บริษัทฯ เล็งขยายสาขาทั้งในร้านรูปแบบปัจจุบัน ซึ่งเป็นแบบ dine-in และการพัฒนาสินค้าในรูปแบบ grab & go รวมถึงต่อยอดร้านในรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น คีออสก์ และคลาวด์คิตเชน รวมถึงมองหาโอกาสในการขยายเข้าไปในศูนย์การค้า เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปีหากสถานการณ์ปกติ จะสามารถขยายสาขาได้ต่อเนื่อง และมีจำนวนสาขา 60-70 สาขาทั่วประเทศ

“เรามองการเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการรายย่อยที่มีไอเดีย คอนเซ็ปต์ร้านดี แล้วต้องการขยายธุรกิจ ซึ่งซีอาร์จีมีจุดแข็งที่สามารถส่งเสริมผู้ประกอบการได้ ทั้งในรูปแบบที่มาร่วมอยู่ในคลาวด์คิตเชนของเรา และในรูปแบบการร่วมทุนกัน เพราะมองว่าการอยู่ร่วมกันดีกว่าอยู่คนเดียว จึงจะเห็นเราทำ M&A มากขึ้น เพราะรายย่อยเก่ง มีความสามารถ มีความถนัดหลายด้าน และเราพร้อมช่วยขยายสาขา การรวมพลังกันจึงไม่มีทางที่หนึ่งบวกหนึ่งเป็นสอง แต่เติบโตมากกว่านั้นได้”


นายชนวีร์ หอมเตย และ นายศุภณัฐ สัจจะรัตนกุล ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ชินคันเซ็น ซูชิ (Shinkanzen sushi) มีจุดเริ่มต้นเกิดจากการเปิดร้านขายอาหารญี่ปุ่นซูชิ เล็กๆ ในย่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต โดยมีแนวคิดที่อยากให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารญี่ปุ่น ซูชิคุณภาพดี ในราคาสบายกระเป๋า สะอาด และมีมาตรฐาน ด้วยช่วงเวลานั้นร้านซูชิหารับประทานยาก และราคาสูง ทำให้ ชินคันเซ็น ซูชิ ได้รับความสนใจและไว้วางใจจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว จนเป็นแบรนด์อาหารญี่ปุ่นซูชิที่หลายๆ คนรู้จัก โดยกลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มครอบครัว

สำหรับเหตุผลที่เข้าร่วมธุรกิจกับซีอาร์จี เพราะเป็นเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีประสบการณ์ ความรู้ ระบบต่างๆ ในการบริหารร้านอาหารที่มีสาขาจำนวนมาก ซึ่งการที่ได้เข้าร่วมกับทางซีอาร์จีจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ต่อยอดธุรกิจ และสร้างโอกาสในการเติบโตขยายสาขาร่วมกันอย่างมั่นคงทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังคาดหวังว่าการจับมือกันในครั้งนี้จะสามารถช่วยพัฒนาระบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าว่าชินคันเซ็น ซูชิ จะขยายสาขาไปทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย และสามารถสร้างยอดขาย 2,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี


ปัจจุบันบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด มีแบรนด์ธุรกิจร้านอาหารที่หลากหลาย ครอบคลุมเกือบทุกประเภทอาหาร มีจำนวนสาขารวม 1,380 สาขาทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ เดือน ธ.ค. 2564) แบรนด์ในกลุ่มซีอาร์จี 17 แบรนด์ ประกอบด้วย มิสเตอร์ โดนัท (Mister Donut), เคเอฟซี (KFC), อานตี้ แอนส์ (Auntie Anne’s), เปปเปอร์ ลันช์ (Pepper Lunch), ชาบูตง ราเมน (Chabuton), โคลด์ สโตน ครีมเมอรี่ (Cold Stone Creamery), ไทยเทอเรส (Thai Terrace), โยชิโนยะ (Yoshinoya), โอโตยะ (Ootoya), เทนยะ (Tenya), คัตสึยะ (Katsuya), อร่อยดี (Aroi Dee), เกาลูน (Kowlune), สลัดแฟคทอรี่ (Salad Factory), บราวน์ (Brown), อาริกาโต (Arigato) และส้มตำนัว (Somtam Nua) พร้อมบริการดีลิเวอรีอร่อยได้ทุกร้านผ่านโมบายล์แอปพลิเคชัน “FOODHUNT” และโทร. 1312

ส่วนแบรนด์ชินคันเซ็น ซูชิ (Shinkanzen sushi) จุดเริ่มต้นเกิดจากการเปิดร้านขายอาหารญี่ปุ่นซูชิเล็กๆ เพียง 6 โต๊ะ ในย่านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต โดยกลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มครอบครัว สินค้าแบ่งเป็น 10 ประเภท เช่น ซูชิ, ซาชิมิ, โรล, ข้าวหน้า, เบนโตะ, ราเมน, สลัด, เมนูรับประทานเล่น, ของหวาน และเครื่องดื่ม โดยสินค้าที่เป็นที่นิยมสูงสุด คือ เมนูแซลมอน ข้าวหน้าไข่ดอง และซูชิหน้าต่างๆ ปัจจุบันมีทั้งหมด 38 สาขา แบ่งเป็น กทม.-ปริมณฑล 35 สาขา และต่างจังหวัด 3 สาขา














กำลังโหลดความคิดเห็น