xs
xsm
sm
md
lg

ยูนิลีเวอร์ อัดกลยุทธ์ราคา-โปรโมชั่น จัดหนักทุกแพลตฟอร์มปลุกกำลังซื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยูนิลีเวอร์’ มั่นใจคลายล็อกดาวน์ 1 ตุลาคมนี้ ปลุกกำลังซื้อฟื้นรอบใหม่ อัดกลยุทธ์ลดราคา-โปรโมชั่นพิเศษ ตอบโจทย์ลดค่าครองชีพผู้บริโภค เดินหน้าลุยทั้งขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ออฟไลน์ ยันร้านค้าโชห่วย ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการสร้างวิถีชีวิตที่ยั่งยืน

นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทยและภาคพื้นอาเซียน ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ลดระยะเวลาห้ามออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลา 22.00-04.00 น.และให้เปิดร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม โรงภาพยนตร์ และเล่นดนตรีในร้านอาหารได้ตามปกติ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ดาดว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะกลับมาฟื้นตัวรอบใหม่ได้ เพราะมั่นใจว่าธุรกิจจะเริ่มกลับมาดำเนินการได้ แต่จะต้องไม่ประมาทกับสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจจะกลับมาระบาดซ้ำได้

ที่ผ่านมายูนิลีเวอร์ฯ มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ และช่องทางการสื่อสารให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องแพลตฟอร์มออนไลน์ ผ่าน Shopee Lazada โดยนำสินค้าในกลุ่มทำความสะอาด อาทิ ครีมอาบน้ำ แชมพู น้ำยาทำความสะอาด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในยามนี้ มาจำหน่ายในราคาพิเศษ ซึ่งมั่นใจว่าสินค้ากลุ่มดังกล่าวสามารถสร้างการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว ผนวกกับวิถีชีวิตใหม่


ขณะเดียวกันยังมีการออกนวัตกรรมใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาทิ บรีส สูตรใหม่ ที่มีส่วนผสมจากพลังเอนไซม์จากธรรมชาติทดแทนการใช้สารเคมีที่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และในสินค้าหลายหมวดมีการเปลี่ยนขวดพลาสติกใหม่เป็นพลาสติกรีไซเคิล โดยได้ร่วมมือกับ เอสซีจี เคมิคอลส์

นายโรเบิร์ต กล่าวย้ำว่า แนวคิดหลักในการดำเนินธุรกิจของ ยูนิลีเวอร์ นั้นให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคมและสร้างองค์กรที่มีเป้าหมาย โดยเฉพาะในด้านการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ที่ได้ดำเนินการมาอย่างจริงจัง โดยผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำมากมากมายเพื่อเก็บรวบรวมและจัดการขยะในแต่ละประเภท ทั้งนี้สถานการณ์ ขยะพลาสติก ในประเทศไทย มีข้อมูลจากเสวนา PPP Plastics ในหัวข้อ “ขยะพลาสติก : การจัดการและโอกาส Post COVID-19” ระบุว่า ในช่วงก่อนโควิด-19 ไทยมีขยะพลาสติกเฉลี่ย 2 ล้านตัน/ปี หรือเฉลี่ยประมาณ 90 กรัม/คน/วัน (ระหว่างมกราคม-ธันวาคม 2562) มีขยะพลาสติกถูกนำกลับไปใช้ประโยชน์คิดเป็น 0.5 ล้านตัน/ปี และถูกนำไปกำจัดโดยวิธีฝังกลบหรือเตาเผาถึง 1.5 ล้านตัน/ปี จึงจำเป็นต้องนำขยะพลาสติกนำมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ ช่วงโควิดที่ผ่านมา พบว่าขยะพลาสติกเพิ่มขึ้น 45 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยประมาณ 139 กรัม/คน/วัน (เม.ย.2564)


ล่าสุด ยูนิลีเวอร์ ได้ร่วมกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) PPP Plastics และพันธมิตรในแวดวงพลาสติก ภายใต้การนำของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) สานต่อการจัดการขยะจากที่อยู่อาศัย ส่งเสริมและสร้างความเข้าใจในการแยกขยะตั้งแต่ต้นทางให้เกิดประโยชน์ กับโครงการ “waste to WORTH: แยกไม่ยาก” โดยเชิญชวนลูกบ้านและทุกคน ล้าง-ตาก-ทิ้ง เพื่อส่งต่อขยะพลาสติกแบบย่อยสลายไม่ได้ โดยได้ตั้งจุดรับขยะที่โครงการ Habito Mall และขยะพลาสติกที่ลูกบ้านคัดแยกในอีกกว่า 50 โครงการของแสนสิริ จะถูกนำส่งกับ Recycle Day หรือนิติบุคคลในโครงการแสนสิริ ตั้งแต่วันนี้-31 ธันวาคม 2564 เพื่อเข้าสู่กระบวนการ Upcycle ต่อไป เพื่อเป็นการตอกย้ำเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมสู่การสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนนำพลาสติกรีไซเคิลกลับมาใช้ได้ 100% ภายในปี 2568

สำหรับ แนวทาง Unilever Compass เป็นกลยุทธ์เพื่อธุรกิจยั่งยืนที่ถูกกำหนดขึ้นมา เพื่อช่วยให้เราสร้างผลการดำเนินการที่ดียิ่งขึ้นและผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบ ในขณะที่
- ช่วยให้สุขภาพของโลกใบนี้ดีขึ้น
- ช่วยยกระดับให้ผู้คนมีสุขภาพ ความมั่นใจ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และ
- ช่วยทำให้เกิดโลกที่เป็นธรรมและคำนึงถึงสังคมส่วนรวมมากขึ้น

ในขณะที่ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมากมาย เราภูมิใจที่ได้รับการยกย่องในปี 2563 ให้เป็นหนึ่งในผู้นำดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และยังเป็นบริษัทอันดับต้นๆ ในการสำรวจ Global Corporate Sustainability Leaders อีกด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น