xs
xsm
sm
md
lg

ช่วยโลก! ‘จีน’ ประกาศเลิกสนับสนุนก่อสร้าง ‘โรงไฟฟ้าถ่านหิน’ ในต่างแดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน แถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติวานนี้ (21 ก.ย.) ว่าจีนจะเลิกสนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการให้คำมั่นสัญญาเพิ่มการมีส่วนร่วมกับนานาชาติในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน

ในคลิปวิดีโอบันทึกถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นครั้งที่ 76 ประธานาธิบดี สี ยังไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดของนโยบายนี้ ทว่าหากจีนยึดถือปฏิบัติอย่างจริงจังก็จะทำให้แหล่งทุนสนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาถูกจำกัดลงอย่างมาก

รัฐบาลจีนเผชิญแรงกดดันทางการทูตอย่างหนักให้เลิกสนับสนุนอุตสาหกรรมถ่านหินในต่างประเทศ เพื่อที่โลกจะได้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกไซด์ตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) ได้ง่ายยิ่งขึ้น

คำประกาศของ สี มีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลเกาหลีใต้และญี่ปุ่นก็ได้ประกาศเจตนารมณ์เดียวกันไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา


“จีนจะเพิ่มการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาให้หันไปใช้พลังงานคาร์บอนต่ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และจะหยุดสนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ๆ ในต่างประเทศ” สี ระบุ พร้อมกับย้ำว่าจีนปรารถนาที่จะสานความสัมพันธ์กับนานาชาติในเชิงสันติ

จอห์น เคร์รี ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ว่าด้วยปัญหาสภาพอากาศ ออกมาแถลงชื่นชมคำสัญญาของผู้นำจีนว่า “มีส่วนช่วยเหลืออย่างมาก” และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ก่อนที่จะมีการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ หรือ COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ ในวันที่ 31 ต.ค. – 12 พ.ย. นี้

“เรามีการพูดคุยกับจีนมาสักระยะหนึ่งแล้ว และผมรู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้ยินประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ประกาศการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้” เคร์รี กล่าว

สี ยังย้ำคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เมื่อปีที่แล้วว่า ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของจีนจะถึงเพดานสูงสุดก่อนปี 2030 และจะค่อยๆ ลดลงมา กระทั่งบรรลุเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ก่อนปี 2060

แม้ผู้เชี่ยวชาญจะมองว่าเป้าหมายเหล่านี้ยัง “ไม่สูงพอ” แต่อย่างน้อยจีนก็ยังอ้างได้ว่ามีส่วนร่วมกับประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมมากกว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐฯ ในขณะนั้นที่อ้างว่าภาวะโลกร้อน “ไม่มีอยู่จริง” และนำอเมริกาถอนตัวออกจากความตกลงปารีสอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว

ที่มา: รอยเตอร์




กำลังโหลดความคิดเห็น