xs
xsm
sm
md
lg

มท.1 สั่งจังหวัด-กทม.บูรณาการแผนงานแก้ปัญหา PM 2.5

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษรายงานปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วานนี้ (1 ต.ค.) พบมีค่าระหว่าง 37-76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และคุณภาพอากาศในบางพื้นที่ยังอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยสถานการณ์ดังกล่าว จึงมีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมและบูรณาการแผนงานป้องกันและแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้จังหวัดและกรุงเทพมหานคร บูรณาการแผนงานแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในระยะเร่งด่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาสัมพันธ์ข้อมูลและแจ้งเตือนประชาชนให้เข้าใจข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันการเข้าใจคลาดเคลื่อนและลดความตื่นตระหนก ให้จังหวัดระดมกำลังทุกภาคส่วนในพื้นที่ร่วมดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ รวมถึงจัดเตรียมสถานที่พักชั่วคราวที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่สามารถป้องกันตนเองได้

ส่วนสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครช่วงที่ผ่านมา สาเหตุหลักเกิดจาก 2 ส่วน คือ การใช้ยานพาหนะและการก่อสร้าง ขณะที่ในจังหวัดจะมีสาเหตุเพิ่มจากการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ซึ่งเน้นย้ำให้จังหวัดและกรุงเทพมหานครดำเนินมาตรการลดผลกระทบจากฝุ่นละอองในระยะเร่งด่วน คือ ด้านการขนส่งและจราจรโดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ตรวจสอบและควบคุมการปล่อยมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามกฎหมาย ควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ควบคุมการเผาในที่โล่งและพื้นที่การเกษตร มุ่งเน้นสนับสนุนให้เกษตรกรนำเศษวัสดุการเกษตรไปใช้ประโยชน์ด้วยวิธีที่เหมาะสมแทนการเผา นอกจากนี้ให้จังหวัด กรุงเทพมหานคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฉีดล้างทำความสะอาดพื้นผิวถนนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนำเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำดำเนินการฉีดพ่นน้ำเพื่อเพิ่มความชื้นและลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและใช้บริการรถโดยสารสาธารณะแทน รวมถึงใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ

ทั้งนี้ หากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษทางอากาศสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้โดยด่วนทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง