นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อายุ 57 ปี พร้อมทีมงานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าพบ ร.ต.อ.ภานุเทพ วรสุทธิ์ พนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อแจ้งความเป็นหลักฐานกรณีถูกมิจฉาชีพเอารูปกับชื่อไปแอบอ้างขอเงินบริจาคช่วยน้ำท่วม
ทั้งนี้ นายบิณฑ์ ระบุว่า มีผู้แอบอ้างใช้รูปภาพตนที่ประกาศในเฟซบุ๊ก พร้อมแจ้งหมายเลขบัญชี ธ.ออมสิน ระบุชื่อบัญชีเป็นชื่อจริงนามสกุลจริงของ น.ส.ทราย และคนที่โพสต์คือ น.ส.เบส น้องสาวของ น.ส.ทราย ทำให้คนเข้าใจผิดแล้วโอนเงินไปให้เพื่อหวังร่วมทำบุญด้วย ซึ่งเลขบัญชีที่แท้จริงของตนคือ ธนาคารกสิกรไทย ออมทรัพย์ สาขาภูเก็ต เลขบัญชี 0514226540 และบัญชี ธนาคารกสิกรไทย กระแสรายวัน สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า เลขบัญชี 7061037793 ซึ่งขอแจ้งความว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีที่แอบอ้างนี้ทุกประการ
นอกจากนี้ ตามที่ได้ฟังสองสาวพี่น้องเปิดใจในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่าไม่ได้ทำนั้น ตนไม่เชื่อ สิ่งที่กระทำนี้คือการกระทำโดยเจตนา ไม่ได้โกรธนะ แค่อยากบอกทำแบบนี้มันแย่มาก เบียดเบียนเอาเงินบริจาคของคนที่กำลังเดือดร้อน ตนถึงต้องมาแจ้งความเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน ให้มันเป็นไปตามกระบวนกฎหมาย อย่ามาแก้ตัวดีกว่า ถ้าสำนึกจริงเอาเงินมาคืน
ทั้งนี้ นายบิณฑ์ ระบุว่า มีผู้แอบอ้างใช้รูปภาพตนที่ประกาศในเฟซบุ๊ก พร้อมแจ้งหมายเลขบัญชี ธ.ออมสิน ระบุชื่อบัญชีเป็นชื่อจริงนามสกุลจริงของ น.ส.ทราย และคนที่โพสต์คือ น.ส.เบส น้องสาวของ น.ส.ทราย ทำให้คนเข้าใจผิดแล้วโอนเงินไปให้เพื่อหวังร่วมทำบุญด้วย ซึ่งเลขบัญชีที่แท้จริงของตนคือ ธนาคารกสิกรไทย ออมทรัพย์ สาขาภูเก็ต เลขบัญชี 0514226540 และบัญชี ธนาคารกสิกรไทย กระแสรายวัน สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า เลขบัญชี 7061037793 ซึ่งขอแจ้งความว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีที่แอบอ้างนี้ทุกประการ
นอกจากนี้ ตามที่ได้ฟังสองสาวพี่น้องเปิดใจในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่าไม่ได้ทำนั้น ตนไม่เชื่อ สิ่งที่กระทำนี้คือการกระทำโดยเจตนา ไม่ได้โกรธนะ แค่อยากบอกทำแบบนี้มันแย่มาก เบียดเบียนเอาเงินบริจาคของคนที่กำลังเดือดร้อน ตนถึงต้องมาแจ้งความเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน ให้มันเป็นไปตามกระบวนกฎหมาย อย่ามาแก้ตัวดีกว่า ถ้าสำนึกจริงเอาเงินมาคืน