xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวงโปรดเกล้าฯ องคมนตรีเชิญถุงพระราชทานมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยจากพายุโพดุล จ.พิษณุโลก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุอุทกภัยในพื้นที่
จังหวัดพิษณุโลก ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย

วันนี้ (5 ก.ย. 62) เวลา 09.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ไปประชุมและติดตามการเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหนองพระ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก

ต่อจากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,297 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหนองพระ อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก

ในตอนบ่ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
เชิญถุงพระราชทาน เครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,697 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลพันชาลี อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวกับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดเหตุอุทกภัยให้รับทราบ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อประกอบอาหารพระราชทานให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยและที่เดินทางมารับถุงพระราชทาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่มาให้ความช่วยเหลือราษฎร กับลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอวังทอง จำนวน 5 ราย พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจกับราษฎร ต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

จังหวัดพิษณุโลก ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “โพดุล” ที่พัดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2562 ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชย์ พื้นที่ทางการเกษตร ได้รับความเสียหายใน 5 อำเภอ 36 ตำบล 251 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 30,072 ครัวเรือน