นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศ และพิจารณาปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่พบว่า ช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับประกาศกรมทรัพยากรธรณี ฉบับที่ 10/2562 ให้เฝ้าระวังภัยน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมถึงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ลุ่มต่ำ อาจเกิดน้ำท่วมในขังระยะสั้น น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 25 – 26 ส.ค. กอปภ.ก ได้ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัดในพื้นที่ต้องติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขัง 28 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ส่วนพื้นที่ต้องติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม 9 จังหวัด ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน บริเวณ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ปางมะผ้า ขุนยวม แม่ลาน้อย สบเมย และปาย จ.เชียงใหม่ บริเวณ อ.เมืองเชียงใหม่ ฮอด ดอยสะเก็ด แม่แจ่ม จอมทอง แม่ริม และแม่อายจ.เชียงราย บริเวณ อ.เมืองเชียงราย เชียงแสน พาน แม่สรวย แม่ลาว เวียงป่าเป้า เทิง และเวียงแก่น จ.ลำปาง บริเวณ อ.งาว จ.พะเยา บริเวณอ.เมืองพะเยา เชียงคำ ปง และจุน จ.แพร่ บริเวณ อ.ร้องกวาง เด่นชัย ลอง และวังชิ้น จ.น่าน บริเวณ อ.เมืองน่าน บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ เวียงสา เชียงกลาง ท่าวังผา นาน้อย นาหมื่น ปัว ทุ่งช้าง สันติสุข และแม่จริม จ.อุตรดิตถ์ บริเวณ อ.บ้านโคก ท่าปลา และ อ.น้ำปาด จ.ตาก บริเวณ อ.พบพระ
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป