นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมประชุมหารือกับนายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อหารือในหลายประเด็นที่จะยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้แข่งขันในตลาดโลกได้ โดยภาคเอกชนมีความเห็นตรงกัน ว่า ต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงต้องการเร่งรัดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาทต่อปี
ขณะเดียวกัน ยังหารือกันในประเด็นปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ขณะนี้ส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงกระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งมีสัดส่วนการค้ากับจีนมากที่สุด เห็นได้จากตัวเลขการส่งออกที่หดตัวลงในช่วงครึ่งปีแรก พร้อมเชื่อว่าในระยะใกล้นี้ไทยยังสามารถพลิกวิกฤตดังกล่าวให้เป็นโอกาสได้ เพราะบริษัทผู้ผลิตในจีนกำลังมองหาและย้ายฐานการผลิต ซึ่งจะเล็งเห็นศักยภาพความเหมาะสมของทำเลที่ตั้งในไทย เช่น ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
นอกจากนี้ ภาคเอกชนยังขอให้ภาครัฐกำหนดระเบียบจัดซื้อจัดจ้างโครงการใหญ่ต่างๆ ของภาครัฐให้มีการใช้ชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ หรือสินค้าที่ผลิตในประเทศในสัดส่วนร้อยละ 90 เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะนำหารือกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงคลัง เพื่อพิจารณามาตรการต่อไป รวมทั้งได้พูดคุยถึงเรื่องการหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ การให้ความช่วยทางการเงินแก่เอสเอ็มอีผ่านทางธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ที่มีศักยภาพในการปล่อยสินเชื่อ และการพัฒนาบุคลากรในประเทศรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
ภาคเอกชนยังขอให้รัฐพิจารณากฎเกณฑ์การอำนวยความสะดวกธุรกิจ ด้านการนำเข้าวัสดุสินค้าเพื่อส่งออก ที่ปัจจุบันยังติดเรื่องมาตรฐาน และขั้นตอนการดำเนินงานที่ใช้เวลานาน เพื่อลดระยะเวลาเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะการหาแนวทางตรวจสอบมาตรฐานสินค้านำเข้า เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการผลิตสินค้าไทย ผ่านการรับรองจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อให้มีสินค้าได้มาตรฐานเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม และ ส.อ.ท.ยังมีกลไกลความร่วมมือที่จะหารือร่วมกันอีกหลายประเด็นร่วมกับทุกหน่วยงานของกระทรวง เช่น ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จะหารือถึงมาตรการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงด้วย