xs
xsm
sm
md
lg

แอมเนสตี้ไทยยื่น จม.จี้"บิ๊กป้อม-บิ๊กแป๊ะ"เร่งหาตัวคนทำร้ายนักเคลื่อนไหว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

วันนี้ (3 ก.ค.) ตัวแทนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เดินทางไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวนการทำร้ายอย่างรุนแรงต่อสามนักกิจกรรม และคุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ โดยมี พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจสันติบาล และ พ.ต.อ.คมสัน สุขมาก รองผู้บังคับการคดีปกครองและคดีแพ่ง สำนักงานกฎหมายและคดี เป็นตัวแทนรับหนังสือ

นายนิโคลัส เบเคลัง ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิค แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ลงนามในจดหมายเปิดผนึก กล่าวว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อนักกิจกรรมทางการเมืองและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยอยู่ในระดับที่น่าตกใจ มีการโจมตีที่เป็นการใช้ความรุนแรงอย่างเป็นระบบ มีการกำหนดช่วงเวลาของการทำร้ายที่สอดคล้องกับการดำเนินกิจกรรมรณรงค์ และมีรายงานว่า นักกิจกรรมทางการเมืองถูกข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย และการคุกคามในรูปแบบอื่นๆ เนื่องมาจากการทำกิจกรรมของพวกเขา

ทั้งนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาทางป้องกันเหตุร้าย และให้สอบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เนื่องจากจนถึงปัจจุบันทางการยังไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทำร้ายที่เกิดขึ้นกับนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ และนายเอกชัย หงส์กังวาน ได้

นายนิโคลัส กล่าวเรียกร้องรัฐบาลให้เปิดเผยข้อมูลความคืบหน้าและข้อค้นพบในการสอบสวน และแจ้งให้ผู้เสียหายทราบข้อมูลเหล่านี้ รวมทั้งวิธีการและขั้นตอนปฏิบัติในการสอบสวนเหตุการณ์ทำร้าย โดยให้แจ้งข้อมูลโดยทันทีและอย่างสม่ำเสมอ และขอกระตุ้นให้รัฐบาลไทยดำเนินการสอบสวนโดยทันที อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม เป็นอิสระต่อเหตุการณ์ตามทำร้ายสามนักกิจกรรม และให้นำตัวผู้กระทำผิดมาไต่สวนตามกระบวนการยุติธรรมที่สอดคล้องกับมาตรฐานความเป็นธรรมระหว่างประเทศ

ด้านนางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ตัวแทนยื่นจดหมาย กล่าวแสดงความยินดีที่ตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมารับจดหมาย และเน้นย้ำความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและมั่นคงของนักกิจกรรม และกระตุ้นทางการไทยให้หามาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองไม่ให้นักกิจกรรมได้รับอันตราย และคุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ

นอกจากนั้น ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ ประเทศไทยยังตั้งข้อสังเกต ว่า นักกิจกรรมทั้งสามคนถูกดำเนินคดีอาญาหลายข้อหา อันเป็นผลมาจากการใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ รวมทั้งการดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่น ละเมิดพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ และละเมิดข้อห้ามต่อการชุมนุมทางการเมืองของบุคคล 5 คนหรือกว่านั้น ซึ่งข้อหาทั้งหมดล้วนเป็นการแทรกแซงโดยไม่ชอบธรรมต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบของพวกเขา

ทั้งนี้ ทางการไทยต้องมีแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม สอดคล้องกับพันธกรณีที่มีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในการให้การคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ต้องเตรียมมาตรการรับมือกรณีที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนร้องขอความคุ้มครองด้านความปลอดภัยอย่างเร่งด่วน และเมื่อเกิดเหตุการคุกคาม ทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบสวนหาผู้กระทำความผิดโดยเร็วที่สุด

ด้าน พล.ต.ต. ทนัย อภิชาติเสนีย์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจสันติบาล กล่าวหลังรับหนังสือว่า เชื่อว่าประชาชนทุกคน รวมถึงนายกรัฐมนตรีเอง รองนายกรัฐมนตรี ก็มีความห่วงใย ต้องการสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ลงมาดูด้วยตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ทางแอมเนสตี้และทุกภาคส่วนของประเทศไทยให้ความสนใจ แล้วก็ไม่ปล่อยไปเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา อย่างไรก็ตาม ทราบว่าคดีที่ผ่านมาก็อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งได้นำสำนวนมารวบรวมอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าจะสามารถรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนได้ทราบต่อไป ในส่วนนี้จะขอรับหนังสือจากทางแอมเนสตี้ไว้ และจะนำเรียนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสั่งการให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการสอบสวนต่อไป และขอบคุณแอมเนสตี้ที่เป็นหูเป็นตาและห่วงใยในกรณีนี้