นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังโดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ดำเนินโครงการส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital) เพื่อรองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และ 3 โครงสร้างพื้นฐาน ผ่านกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการศึกษาตามสาขาวิชาที่คาดว่ามีความต้องการ ต่อการพัฒนาประเทศ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมไปถึง 3 โครงสร้างพื้นฐาน เช่น อุตสาหกรรมระบบราง พาณิชยนาวี และลอจิสติกส์ โดยรายละเอียดของโครงการแบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ปริญญาตรีและอาชีวศึกษา โดยระดับปริญญาตรีเมื่อสำเร็จการศึกษาจะคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 0.5 และได้ส่วนลดเงินต้นร้อยละ 30 ส่วนระดับอาชีวศึกษาจะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.5 เช่นกัน และได้รับส่วนลดเงินต้นร้อยละ 50
กระทรวงการคลังคาดว่าการดำเนินโครงการฯ จะช่วยลดปัญหากำลังแรงงานส่วนเกินซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขาดทักษะที่ตรงกับสายงานที่ตลาดต้องการ และจะช่วยสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านทรัพยากรมนุษย์ ทำให้ประเทศมีกำลังแรงงานในอนาคตที่มีศักยภาพ รวมทั้งสร้างกำลังคนในสายอาชีวะ สายวิชาชีพที่ยังขาดแคลน เพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทยต่อไปในอนาคต
ส่วนกรณีที่ผู้ยืมเงินไม่สามารถสำเร็จการศึกษาตามที่กำหนดไว้ จะไม่ได้รับส่วนลดเงินต้น และต้องรับชำระหนี้ตามที่ กยศ. กำหนด ซึ่งมีระยะดำเนินการ 5 ปี (2562-2566) ส่วนงบประมาณที่ต้องใช้ดำเนินโครงการนั้น จะให้ กยศ. ดำเนินการจัดสรรตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป