นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ส่งตัวแทนไปร่วมสังเกตการณ์การนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด 61 กระดาน 245 หน่วย โดยมีตนและทีมงานไปสังเกตการณ์ตั้งแต่ต้น มีข้อมูลยืนยันว่า พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัคร ส.ส.นครปฐม พรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้ง โดยได้คะแนนรวม 35,711 คะแนน ขณะที่ น.ส.สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ ได้ 35,707 คะแนน มีคะแนนห่างกัน 4 คะแนน ซึ่งทั้งหมดนี้สำนักงานเลขาธิการพรรคฯ ได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานเป็นภาพถ่ายและมีลายเซ็นกำกับ จึงขอเรียกร้องให้ กกต.เร่งประกาศผลอย่างเป็นทางการ
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอให้ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เพราะจากหลักฐานที่รวบรวมมา มีลายเซ็นกำกับจากแต่ละกระดานมารวมกัน และได้ทบทวนหลายครั้ง พบว่าผู้สมัครของพรรคฯ ชนะการเลือกตั้ง รวมทั้งผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ได้โพสต์เฟซบุ๊กยอมรับผลรวมคะแนนที่ตรงกัน แต่อาจจะเกิดความผิดพลาดประการใดที่ กกต.บางคนระบุว่าผู้สมัครของพรรคแพ้ 62 คะแนน พรรคจึงขอเรียกร้องให้ กกต.ประกาศรับรองผลโดยเร็ว หากยังยืนยันตามที่ กกต.ให้สัมภาษณ์ จะต้องมีคนรับผิดชอบเรื่องนี้
ขณะที่ น.ต.สุธรรม ระหงษ์ รักษาการผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำหลักฐานที่เป็นผลอย่างเป็นทางการที่ติดประกาศไว้บริเวณนับคะแนนทุกหน่วยที่รวบรวมมา และนำตัวเลขมารวมกันทั้งหมดยืนยันชัดเจนว่าผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ชนะมาแสดงกับสื่อด้วย
ทั้งนี้ นายสาธิตได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า สาเหตุที่คะแนนผิดพลาด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 25 ลงคะแนนผิด โดยนำคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ในหน่วยนั้นไปกรอกให้ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคประชาภิวัฒน์
"พบแล้วความผิดพลาด ของเจ้าหน้าที่ระดับล่างของ กกต ในการเลือกตั้งที่ เขต 1 นครปฐม ไม่เอาคะแนนของ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัคร พรรคประชาธิปัตย์ ไปรวมคะแนนรวมทั้งหมด เพราะไปกรอกให้ผู้สมัคร เบอร์ 1 ที่อยู่ด้านบน ท่านสินธพ ครับ เฮ้อ!!! เป็นไปแล้วครับ ผมขอเถอะ อย่าผิดอีกเลยนะ แค่นี้องค์กรท่านก็เสียหายและล้มละลายในความเชื่อมั่นจากประชาชนไปแล้วครับ ถึงแม้จะเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ระดับล่างก็ตาม ผมไม่มีอคติ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และด้วยความหวังดี แต่ต้องพูดตามข้อเท็จจริงครับ"