xs
xsm
sm
md
lg

คสช.ออกคำสั่ง ม.44 ช่วยทีวีดิจิทัลคืนใบอนุญาตใน 30 วัน -ยืดชำระค่างวดได้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม

ในส่วนของทีวีดิจิทัลนั้น ในข้อ 10 ของประกาศฉบับนี้ ระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการรายใดประสงค์จะคืนใบอนุญาตที่ได้รับตามประกาศ ให้แจ้งเป็นหนังสือไปยังสำนักงาน กสทช. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และให้สำนักงาน กสทช. พิจารณากำหนดค่าชดเชยให้แก่ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ผู้รับใบอนุญาตได้รับในระหว่างที่ได้มีการประกอบกิจการ และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่ได้มีการชำระแล้ว

นอกจากนี้ ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล 22 ช่อง ไม่ต้องนำเงินค่าประมูล 2 งวดสุดท้ายคือ งวดที่ 5 และ 6 มาชำระให้กับ กสทช. ส่วนรายใดที่นำเงินมาชำระไปแล้ว ก็มาขอคืนได้ และรายใดที่ยังชำระงวดที่ 4 ไม่ครบตามจำนวน ให้นำเงินมาชำระค่าประมูลให้ครบตามถ้วน และตามวันเวลาครบรอบการชำระค่าประมูล ซึ่งจะครบชำระในเดือน พ.ค.2562 นี้

สำหรับวงเงินค่าประมูลทีวีดิจิทัลงวด 5 และ 6 รวมเป็นเงิน 13,622 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัล (MUX) นั้น กสทช.จะช่วยสนับสนุนออกเงินค่าใช้จ่ายให้ โดยจะนำเงินไปชำระให้ผู้ประกอบการโครงข่าย คือ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รวมเป็นเงินปีละ 1,960 ล้านบาท จนสิ้นสุดอายุใบอนุญาต

ส่วนผู้ประกอบการโทรคมนาคมนั้น เอไอเอส ดีแทค และทรู ที่ประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ไปก่อนหน้านี้ รวมเงินประมูลประมาณ 190,000 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จะได้รับความช่วยเหลือด้วยการขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ออกไปจาก 4 งวดเป็น 10 งวด หรือจากเดิมต้องจ่ายหมดในปี 2562 เป็นเอไอเอส และทรู จ่ายงวดสุดท้าย 2568 ส่วนดีแทคที่ประมูลหลังสุด งวดสุดท้ายปี 2570 เพื่อให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมมีเงินทุนมาประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ และขยายโครงข่ายโทรคมนาคม เพื่อรองรับการให้บริการประชาชนได้อย่างครอบคลุม มีประสิทธิภาพ และรองรับการให้บริการ 5 จีในอนาคตอันใกล้ด้วย เงินค่าประมูลคลื่น 900 ดังกล่าวกลุ่มทรู มูลค่า 76,298 ล้านบาท เอไอเอส 75,654 ล้านบาท และดีแทค 38,064 ล้านบาท 

การออกประกาศดังกล่าว อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป