นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้เปิดรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2562 ระหว่างวันที่ 22-27 มีนาคม.และสอบระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคมนั้น ภาพรวมการสอบทั้ง 2 วันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่รับรายงานการทุจริตแต่อย่างใด โดยการรับนักเรียนปีนี้ (2562) พบการสมัครเข้าเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงมีจำนวนน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากส่วนหนึ่งมาจากแนวปฎิบัติรับนักเรียนของ สพฐ.ที่วางแผนภาพรวมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา เช่น นโยบายรับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาชั้น ม.3 ขึ้นสามารถเรียนต่อ ม.4 ที่สถานศึกษาเดิมแบบอัตโนมัติ ทำให้เด็กไม่ต้องออกไปเคว้งคว้างหาที่สอบหม่ และการรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ ร้อยละ 60 และนอกเขตพื้นที่บริการ ร้อยละ 40 ทำให้หลายโรงเรียนในจังหวัดใหญ่ๆ เด็กที่อยู่ในพื้นที่บริการมีผู้สมัครไม่เต็มทำให้ได้จัดสรรที่เหลือไปให้นอกเขตพื้นที่บริการได้อีก เป็นต้น
ส่วนผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ป.6 ม.3 และม.6 ที่มีการประกาศผลไปแล้ว ซึ่งภาพรวมเป็นที่น่าพอใจและยินดีที่คะแนนโอเน็ตของนักเรียนดีขึ้น โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้คะแนนดีขึ้นด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สพฐ.มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำมาโดยตลอดจนประสบความสำเร็จไปอีกขั้น แต่ สพฐ.ไม่หยุดเพียงแค่นี้ ซึ่งได้มอบให้ทุกสำนักไปรวบรวมโรงเรียนเฉพาะกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรงเรียนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนด้วยระบบดีแอลทีวี หรือกลุ่มโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนด้วยระบบ Active Learning เพื่อต้องการให้เกิดการวิเคราะห์คุณภาพของแต่ละกลุ่มเป้าหมายว่ามีการวางแผนจัดการเรียนการสอนอย่างไร และวิธีการไหนที่เด็กเรียนแล้วประสบความสำเร็จมากที่สุด รวมถึงวิธีการไหนยังเป็นจุดบกพร่อง เพื่อเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งประเทศให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
ส่วนผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ป.6 ม.3 และม.6 ที่มีการประกาศผลไปแล้ว ซึ่งภาพรวมเป็นที่น่าพอใจและยินดีที่คะแนนโอเน็ตของนักเรียนดีขึ้น โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้คะแนนดีขึ้นด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สพฐ.มุ่งมั่นในการแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำมาโดยตลอดจนประสบความสำเร็จไปอีกขั้น แต่ สพฐ.ไม่หยุดเพียงแค่นี้ ซึ่งได้มอบให้ทุกสำนักไปรวบรวมโรงเรียนเฉพาะกลุ่มเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรงเรียนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนด้วยระบบดีแอลทีวี หรือกลุ่มโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนด้วยระบบ Active Learning เพื่อต้องการให้เกิดการวิเคราะห์คุณภาพของแต่ละกลุ่มเป้าหมายว่ามีการวางแผนจัดการเรียนการสอนอย่างไร และวิธีการไหนที่เด็กเรียนแล้วประสบความสำเร็จมากที่สุด รวมถึงวิธีการไหนยังเป็นจุดบกพร่อง เพื่อเก็บรวบรวมเป็นข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้งประเทศให้ดียิ่งขึ้นต่อไป