วันนี้ (31 มี.ค.) มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ออกแถลงการณ์ เรื่อง "ขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาหมอกควันในภาคเหนืออย่างเร่งด่วนและจริงใจ" โดยระบุว่า ด้วยสถานการณ์มลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กในภาคเหนือเป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน โดยไม่มีมาตรการแก้ไขหรือเยียวยาจากภาครัฐ ทั้งประชาชนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพอันเกิดจากความล้มเหลวของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาหมอกควันในภาคเหนืออย่างเร่งด่วนและจริงใจ ดังนี้
1. ปัญหาหมอกควันในภาคเหนือครั้งนี้เหตุปรากฏจากแหล่งมลพิษจากกิจกรรมภายในประเทศและข้ามแดนจากประเทศรอบข้าง ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ และมีการใช้พื้นที่ในจังหวัดทางภาคเหนือเพื่อประชุมอาเซียน ประเทศไทยจึงควรมีบทบาทในการผลักดันประเด็นหมอกควันข้ามแดนเข้าสู่วาระการประชุมเพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาร่วมกัน
2. สินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย N95 เครื่องฟอกอากาศ และอุปกรณ์ในการดับไฟป่า ต้องปลอดภาษี รวมถึงบุคคลหรือหน่วยงานที่บริจาคอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตนี้ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
3. สถานพยาบาลรัฐต้องเป็นคลินิกพิเศษ บริการ 24 ชั่วโมง สำหรับประชาชนที่ไดรับผลกระทบให้เข้าใช้บริการตรวจและรักษาฟรี
4. ประกาศให้เขตภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย เป็นเขตภัยพิบัติทางอากาศที่ต้องมีมาตรการพิเศษมาดำเนินการและเยียวยาโดยเร่งด่วน
แถลงการณ์ฉบับนี้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้จัดทำขึ้นเพื่อแสดงจุดยืนของมหาวิทยาลัย รวมทั้งเป็นตัวแทนของประชาชนในเขตภาคเหนือตอนบน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการแก้ปัญหาและเยียวยาเรื่องหมอกควันในภาคเหนือตอนบนโดยเร่งด่วนทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยใช้ทุกมาตรการที่เป็นไปได้ รวมถึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของรัฐเข้าร่วมแก้ปัญหาโดยฉับพลัน