นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊ก“ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ระบุว่า งูเห่ามาแน่ ผมไม่อยากจะพูด ไม่อยากจะวิเคราะห์การเมืองไทยช่วงนี้เลย เพราะสิ่งที่ผมพูดเริ่มจะชัดเข้าไปทุกที ก่อนหน้าเลือกตั้ง ผมวิเคราะห์ว่า
1.ประชาธิปัตย์คะแนนจะลด (ดันลดอย่างเหลือเชื่อ)
2.อนาคตใหม่มาแน่ (มาอย่างล้นหลาม)
3.เพื่อไทยจะไม่ได้มากเท่าเก่า (สะดุดแผน ทษช. และ ส.ส. ที่พึงมี ปาร์ตี้ลิสต์เลยไม่ได้สักที่นั่ง)
4.นายกฯ “ตาอยู่” (คงต้องดู เร็วๆ นี้ อย่ากระพริบตา เตรียมปลูกกัญชากันหรือยัง?)
5.พลังประชารัฐ + ประชาธิปัตย์ สูสีกับเพื่อไทย + อนาคตใหม่ + เครือข่าย (คมเฉือนคม ใครเร็วกว่า ตกลงได้ก่อน ได้เป็นรัฐบาล)
6.พรรคกลางๆ จะมีราคา (ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน มีสง่าราศี หากแพ็คกันได้เป็นมัด ต่อรองได้กระทรวงสำคัญ)
7.จะมีนักการเมืองพูดว่า จำเป็นต้องร่วมรัฐบาล เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ (ต้องมีคนพูดประโยคนี้แน่นอน เร็วๆนี้)
ตอนนี้ถึงส่วนสำคัญ ต่างคนต่างชิงไหวชิงพริบ รีบจัดตั้งรัฐบาล สวรรค์มีตา เทวดาไม่ตกสำรวจ ดันชนะกันไม่ขาด
เพื่อไทย + อนาคตใหม่ + เครือข่าย + ฝั่งที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แตะ 250 หมิ่นเหม่
พลังประชารัฐ + ประชาธิปัตย์ + พรรคสุเทพ + เครือข่าย ประมาณ 192
หากไปบวก ส.ว. เอาแค่ 200 + 192 เป็น 392 เกิน 376 มาเยอะๆ
ส.ว.ที่เหลือ อีก 50 ก็ทำหน้าซื่อตาใส โหวตสวนเพื่อให้ดูบริสุทธิ์ ยุติธรรม แค่นี้ชื่อนายกฯ ก็โผล่แล้ว ว่าเป็นใคร แต่อย่างนี้ถ้ารัฐบาลจะอยู่ได้ ต้องได้เสียงเกิน 250 ไปเยอะหน่อย หากเกินไม่มาก เวลาจะผ่านกฎหมาย ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลต้องอย่าไปอยู่ในห้องน้ำนานเกินไป เดี๋ยวกลับมาโหวตสนับสนุนไม่ทัน ภูมิใจไทยจึงเป็นพรรคที่มีราคาขึ้นมาในบัดดล
ดังนั้นหากภูมิใจไทยที่มีอยู่ประมาณ 50 มาเข้าร่วมกับพลังประชารัฐ ก็จะมีประมาณ 242 ถึงกระนั้นยังไม่เกินครึ่งอยู่ดี ใช้คณิตศาสตร์การเมืองง่ายๆ แบบเด็กประถม จะรู้ว่าขาดอีกหน่อยก็จะเกินครึ่ง 251 เสียง
งูเห่าจะโผล่ขึ้นมาจากรู แถมเป็นงูเห่าที่ย้ายรังได้ โดยไม่ต้องสิ้นสภาพ ส.ส. ด้วย (ตามรัฐธรรมนูญ 2560) ทีนี้คิดออกหรือยังว่า งูเห่าแต่ละตัวจะมีค่าเท่าไหร่