xs
xsm
sm
md
lg

พาณิชย์เชิญภาคเอกชนสถานการณ์ส่งออกปี 62 วันที่ 27 ก.พ.นี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 ก.พ. 2562 กรมจะเชิญภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ (สรท.) และตัวแทนเอกชนที่มีสัดส่วนการส่งออกสูงสุด 10 อันดับแรกมาหารือถึงสถานการณ์การส่งออกในปี 2562 เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคให้กับผู้ส่งออก รวมถึงมาตรการในการสนับสนุนการส่งออกปี 2562 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ขยายตัว 8%

ทั้งนี้ จากการประเมินปัจจัยลบเบื้องต้น ขณะนี้กลุ่มผู้ส่งออกมีความกังวลเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าเป็นพิเศษ เพราะมีผลต่อรายได้ของภาคส่งออกมาทอนกลับมาเป็นเงินบาท รวมถึงขีดความสามารถการแข่งขันของราคาสินค้าไทยเมื่อเทียบกับราคาสินค้าของประเทศคู่แข่งที่ค่าเงินไม่แข็งค่าเท่าไทย โดยเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นประเด็นที่ทราบกันดีว่าหากค่าเงินบาทแช็งค่ามากเกินไปก็จะกระทบต่อภาคการส่งออก

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกรมฯ จะติดตามผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า เพื่อช่วยเหลือและดูแลผู้ส่งออกขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ล่าสุดกรมจะร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)หรือเอ็กซ์ซิมแบงก์ โดยทางเอ็กซ์ซิมแบงก์จะเข้าร่วมกิจกรรมการจัดงานแสดงสินค้ากับกรมในตลาดใหม่และตลาดที่มีความเสี่ยงทางด้านการเงินกับกรมทุกงาน เช่น ตลาดรัสเซียและซีไอเอส ตลาดแอฟริกา รวมถึงตลาดเป้าหมายที่จะผลักดันการส่งออก เช่น จีน อินเดีย อาเซียน เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ส่งออกในกลุ่มเอสเอ็มอีที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมกับกรม โดยผลักดันเอสเอ็มอีเข้าโครงการทำประกันความเสี่ยงกับเอ็กซ์ซิมแบงก์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงค่าเงินผันผวน

ส่วนสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งสัญญาณยืดระยะเวลาการชะลอขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 ออกไปอีก 60 วัน หลังจะสิ้นสุดระยะเวลาชะลอขึ้นภาษี 90 วัน ที่จะสิ้นสุดวันที่ 1 มีนาคมนี้ ทำให้ในต้นเดือนมีนาคม สหรัฐฯ น่าจะยังไม่ขึ้นภาษีสินค้ากับจีนเพิ่มเติม ซึ่งกรมฯ ได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว โดยขณะนี้ได้ให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่สหรัฐฯ ไปหารายชื่อและเจรจากับผู้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่นำเข้าสินค้าจากจีนแต่ได้รับผลกระทบจากการที่สินค้าจีนถูกขึ้นภาษีจากสหรัฐฯ เบื้องต้นมีประมาณ 15 สินค้าที่ไทยมีโอกาสส่งออกสินค้าทดแทนไปให้สหรัฐแทนสินค้าจีน เช่น เกษตรแปรรูป สินค้าเครื่องเดินทาง

ขณะเดียวกัน ให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่จีนหารายชื่อและเจรจากับผู้นำเข้าจีนที่นำเข้าสินค้าสหรัฐฯ และได้รับผลกระทบ ว่าไทยจะสามารถช่วยเหลือและส่งออกสินค้าให้กับผู้นำเข้าเหล่านี้ได้อย่างไร

ทั้งนี้ การส่งออกไตรมาสแรกของไทยอาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าและค่าเงินบาทบ้าง แต่แนวโน้มในไตรมาส 2 น่าจะกลับมาดี เพราะเป็นปกติที่การส่งออกจะเริ่มกระเตื้องในไตรมาสนี้ ซึ่งกรมก็จะทำงานอย่างเต็มที่ในการผลักดันการส่งออกให้โตตามเป้าหมายที่กำหนดไว้