สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติของบราซิล ทดสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำปาราโอเปบาในทุกวัน หลังเขื่อนกักเก็บหางแร่แตกในเหมืองแร่เหล็ก เมื่อเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้กระแสโคลนไหลลงสู่แม่น้ำ และปกคลุมน้ำในแม่น้ำเป็นระยะทางยาว 200 กิโลเมตร และตรวจพบปริมาณโลหะในน้ำเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพบทั้งเหล็ก แมกนีเซียม และอลูมิเนียม และชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำแจ้งว่าพบปลาลอยตายเกลื่อน
นอกจากนี้ กลุ่มสิ่งแวดล้อม เอสโอเอส มาตา แอตแลนติกา ทดสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายนี้ด้วยเช่นกัน และพบว่า ออกซิเจนลดลงมาก ขณะที่ไนเตรตและฟอสเฟตเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ทางการใน 3 รัฐ เรียกร้องให้ชาวบ้านงดใช้น้ำจากแม่น้ำโดยตรง และบริษัท วาเล เจ้าของเหมืองเตรียมจัดหาน้ำดื่มสะอาดให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่มีรายงานว่า โคลนและของเสียปริมาณ 60 ล้านตันไหลทะลักจากเขื่อนใกล้เมืองบรูมาดิญโญ่เข้าสู่บ้านเมือง และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 99 คน และมีผู้สูญหายอีก 259 คน
นอกจากนี้ กลุ่มสิ่งแวดล้อม เอสโอเอส มาตา แอตแลนติกา ทดสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายนี้ด้วยเช่นกัน และพบว่า ออกซิเจนลดลงมาก ขณะที่ไนเตรตและฟอสเฟตเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ทางการใน 3 รัฐ เรียกร้องให้ชาวบ้านงดใช้น้ำจากแม่น้ำโดยตรง และบริษัท วาเล เจ้าของเหมืองเตรียมจัดหาน้ำดื่มสะอาดให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่มีรายงานว่า โคลนและของเสียปริมาณ 60 ล้านตันไหลทะลักจากเขื่อนใกล้เมืองบรูมาดิญโญ่เข้าสู่บ้านเมือง และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 99 คน และมีผู้สูญหายอีก 259 คน