xs
xsm
sm
md
lg

พีเน็ตจี้ กกต.ติวเข้ม จนท.รับมือกลโกงเลือกตั้ง แนะใช้ช่องโหว่เลือก ส.ว.เป็นบทเรียน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) ออกแถลงการณ์เรื่อง "ข้อสังเกตจากการเลือก ส.ว. สู่การเลือกตั้ง ส.ส." โดยระบุว่า การเลือก ส.ว.ระดับประเทศ ที่อิมเพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา พีเน็ตได้ส่งอาสาสมัครจากหลายจังหวัดเข้าร่วมสังเกตการณ์การลงคะแนนของผู้สมัครที่ผ่านการเลือกในระดับจังหวัดจำนวน 2,746 คน จาก 10 กลุ่ม และพบเหตุการณ์ผิดปกติที่อาจจะเสี่ยงต่อการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการการตรวจสอบ ในกรณีผู้สมัคร ส.ว.คนหนึ่งได้จัดทำป้ายขนาดประมาณ A4 ด้วยการถ่ายขยายบัตรประจำตัวผู้สมัคร แล้วห้อยแขวนไว้ด้านหลังของผู้สมัคร ซึ่งแสดงให้เห็นชื่อ-นามสกุล หมายเลข และกลุ่มของผู้สมัครอย่างชัดเจน โดยผู้สมัครดังกล่าวเดินไปทั่วบริเวณสถานที่ลงคะแนนตั้งแต่ก่อนเปิดให้เข้ารายงานตัว และได้เดินทักทายพูดคุยกับผู้สมัครคนอื่นๆ และสื่อมวลชนหลายคน ส่อเจตนาหาเสียงในวันเลือก ส.ว. ในสถานที่เลือก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่อาจขัดกับระเบียบการแนะนำตัวตามที่ กกต.กำหนด

เรื่องดังกล่าวแม้ผู้ประสานงานอาสาสมัครของพีเน็ตจะได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของ กกต.แล้ว แต่กลับไม่มีการดำเนินการห้ามปรามการกระทำของผู้สมัครดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ กกต.ให้เหตุผลว่าเป็นพฤติกรรมที่ยังไม่น่าจะเข้าข่ายความผิดตามระเบียบกฎหมายอย่างชัดเจน

ส่วนกรณีที่สอง เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. มีผู้สมัคร ส.ว.หญิงรายหนึ่งลักลอบใช้โทรศัพท์มือถือภายในห้องน้ำในสถานที่เลือก ส.ว. ซึ่งขัดกับกฎหมายที่กำหนดห้ามมิให้ผู้สมัครใดนำเครื่องมือสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดเข้าไปในที่เลือก เพื่อป้องกันการทุจริต การฮั้ว และการล็อบบี้ พฤติกรรมดังกล่าวจึงเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง สมควรจะต้องดำเนินการให้มีการตรวจสอบเพื่อนำผู้ฝ่าฝืนกฎหมายมาลงโทษอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสองกรณี ประกอบกับการร้องเรียนของผู้สมัครที่ชี้ว่ามีพฤติกรรมหลายอย่างส่อว่าจะมีการทุจริตการเลือก ส.ว.ดังปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ พีเน็ตจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ กกต. ควรปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดในการกำกับดูแลให้ผู้สมัครและทุกคนที่เกี่ยวข้องทำตามกฎระเบียบข้อบังคับอย่างเคร่งครัด และใช้อำนาจตามหน้าที่ในการยับยั้งการกระทำ ที่สงสัยว่าอาจขัดต่อกฎหมายในทันที

นอกจากนี้ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเพื่อเอาผิดกับ ผู้ฝ่าฝืนอย่างจริงจังจะเป็นแบบอย่างป้องปรามการกระทำผิดที่อาจเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันกับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังจะเกิดขึ้น พีเน็ตจึงขอให้ กกต.ให้ความสำคัญกับการอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในช่วงก่อนและวันเลือกตั้ง เพื่อให้รู้เท่าทันกลโกงทุกรูปแบบที่ผู้สมัครหรือบุคคลใดจะนำมาใช้ในการเลือกตั้ง และพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ยับยั้งการกระทำหรือพฤติกรรมที่ส่อว่าอาจเป็นการกระทำทุจริตผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น พีเน็ตเห็นว่าการเตรียมความพร้อมของ กกต. ที่มีขั้นตอนตามระยะเวลา กฎระเบียบและข้อกำหนดที่ชัดเจนโดยเฉพาะกับวันเลือกตั้งซึ่งได้มีการประกาศกำหนดในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 มาก่อนหน้านี้ จะเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อความเชื่อมั่นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมลงสู่สนามแข่งขันที่จะได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค เท่าเทียม และเป็นธรรม และหวังว่าจะเห็นผู้สมัครพรรคการเมืองให้ความสำคัญกับการรักษากฎกติกาอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง เป็นการเลือกตั้งที่ได้รับการยอมรับทั้งจากภายใน ประเทศและต่างประเทศ