นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายสุวิทย์ คำดีที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับนายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเลี้ยงไก่ไข่รายใหญ่ 16 บริษัท เพื่อช่วยเแก้ไขปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำ เนื่องจากผลผลิตไข่ยังออกมาปริมาณมากเกินความต้องการของตลาด จึงได้มีมติแก้ไขปัญหาราคาไข่ไกตกต่ำเร่งด่วน 3 มาตรการ เพื่อปรับลดปริมาณการผลิตไข่
สำหรับมาตรการแรก ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง 1 ล้านตัว ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งมี 15 บริษัทให้ความร่วมมือ ส่งออกไข่ไก่ 60 ล้านฟองภายใน 1 เดือน มี 13 บริษัทให้ความร่วมมือ ได้แก่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ 40 ล้านฟอง บริษัท เบทาโกร 10 ล้านฟอง และบริษัทอื่นๆ อีก 10 ล้านฟอง นอกจากนี้ ยังขอให้ปลดพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ (ps) อายุ 25-60 สัปดาห์ 100,000 ตัว ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งให้ความร่วมมือทั้ง 16 บริษัท
นายกฤษฎา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์จะส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบให้บริษัทดำเนินการปลดแม่ไก่ยืนกรงและไก่ไข่พ่อแม่พันธ์เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ อย่างช้าไม่เกิน 30 พฤศจิกายนนี้ ติดตามการส่งออกไข่ไก่ทุกสัปดาห์ รวมทั้งติดตามตรวจสอบห้องเย็นที่เก็บไข่ไก่รอการส่งออก โดยห้ามนำไข่ไก่ 60 ล้านฟองที่เตรียมส่งออกมาจำหน่ายตลาดภายในประเทศ ซึ่งการดำเนินการตามมาตรการข้างต้นคาดว่าจะสามารถทำให้ราคาไข่ไก่ขนาดกลางหรือไข่ไก่ขนาดคละหน้าฟาร์มจะปรับตัวสูงขึ้นจากฟองละ 2.40 บาท เป็นฟองละ 2.60 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นและไม่ขาดทุน