นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในงาน SET in The City 2018 จะมีผู้เข้าร่วมงาน 120,000-130,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 120,000 คน โดยปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 14 ด้วยแนวคิด "สร้างอนาคตการลงทุนให้เหนือกว่าที่เคย" ซึ่งจะนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมการลงทุนจากพันธมิตรกว่า 100 องค์กร โดย ตลท.ตั้งเป้าเพิ่มฐานนักลงทุนหน้าใหม่ 100,000 รายต่อปี โดยจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุน การออมให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับตลาดทุนไทยระยะยาว
ส่วนการยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีกองทุน LTF นั้น คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อดัชนี เนื่องจากมีสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวมของตลาด ซึ่งแรงซื้อ LTF จะกระจุกตัวในช่วงเดือนธันวาคมโดยแรงซื้อ LTF จะอยู่ประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายรวมที่ 50,000-60,000 ล้านบาทต่อวัน ทำให้ไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก ขณะเดียวกัน เงิน LTF ที่จะขายได้ต้องครบกำหนดตามเกณฑ์ก่อน ทำให้เงินที่อยู่ในกองทุน LTF จะค่อยๆ ลดลงและใช้เวลาหลายปี และเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทุนใหม่เข้ามาแทนเม็ดเงิน LTF ได้
ส่วนที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ต้องการเชื่อมโยงตลาดหุ้นไทยกับตลาดหุ้นฮ่องกงนั้น ตลท.จะศึกษาถึงความเป็นไปได้ เพราะตลาดหุ้นฮ่องกงมีขนาดใหญ่เป็นลำดับต้นๆ ของเอเชีย ซึ่งจะเพิ่มความหลากหลายให้นักลงทุนและเพิ่มช่องทางการระดมทุนให้กับภาคเอกชนไทยด้วย