นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2561 ที่ 51,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 จากสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 6.3 จากร้อยละ 5.4 ในไตรมาสก่อน และคาดสินเชื่อปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 6-8 โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ และเป็นการขยายตัวจากสินเชื่ออุปโภค-บริโภคที่ขยายตัวร้อยละ 8.4 สินเชื่อรถยนต์เร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 12.5 สอดคล้องกับยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ขายดีหลังหมดมาตรการรถยนต์คันแรก สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 8.2 ขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยขยายมาอยู่ที่ร้อยละ 6.4 เป็นการปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์
ส่วนสินเชื่อธุรกิจ ขยายตัวร้อยละ 5.2 โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่ในภาคพาณิชย์ และบริการ โดยภาคธุรกิจระดมทุนผ่านตราสารหนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินเชื่อขนาดใหญ่ขยายตัวที่ร้อยละ 0.6 ส่วนสินเชื่อธุรกิจ SMEs ขยายตัวร้อยละ 7.2 เป็นการขยายตัวจากธุรกิจ SMEs ที่มีวงเงินค่อนข้างสูงในภาคอสังหาริมทรัพย์
คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์มีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ต่อสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.94 ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 2.93 โดยมียอดคงค้าง NPL ที่ 443,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 1,250 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อธุรกิจ SMEs ซึ่งแม้เศรษฐกิจจะขยายตัว แต่ยังไม่ลงไปถึงธุรกิจ SMEs และจะต้องรออีก 2-3 ไตรมาส คุณภาพสินเชื่อของ SMEs จะดีขึ้น
ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารลดลง โดยเฉพาะผลจากการควบคุมบริการการขายประกันชีวิต สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ได้ส่งผลให้รายได้จากค่านายหน้าหดตัวที่ร้อยละ 12.8 ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมหดตัวที่ร้อยละ 4 รายได้การโอนหดตัวที่ร้อยละ 8.7