นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อวิพากษ์ร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. ... ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีนักวิชาการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งผู้สนใจ เข้าร่วมจำนวนมาก และมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นลักษณะเดียวกันนี้ ทั้งในกรุงเทพมหานครและทั้ง 5 ภูมิภาค ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนเกือบสุดท้ายแล้ว หลังจากนี้จะรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอทั้งหมด เพื่อสรุปสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่ที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและต้องพิจารณาเพื่อไม่ให้กระทบกับบุคคลที่ 3 หรือบุคคลอื่น ก่อนจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป โดยกระบวนการของกระทรวงยุติธรรมคาดว่าจะสรุปเนื้อหาทั้งหมดแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะเสนอคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนธันวาคม
ทางด้านนายสมณ์ พรหมรส อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต เป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลเพศเดียวกัน ที่ประสงค์จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ได้รับการรับรองการใช้ชีวิตด้วยกันตามกฎหมาย และเป็นที่ยอมรับถึงศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม ประกอบด้วยเนื้อหาสาระ 70 มาตรา อาทิ การกำหนดเงื่อนไขการจดทะเบียนคู่ชีวิต ที่กำหนดให้เฉพาะผู้ที่มีเพศเดียวกันเท่านั้นที่จะสามารถจดทะเบียนคู่ชีวิตตามกฎหมายนี้ การกำหนดหน้าที่ของคู่ชีวิต การจัดการทรัพย์สินมรดก และการสิ้นสุดความเป็นคู่ชีวิต ซึ่งคล้ายคลึงกับการจดทะเบียนสมรสในปัจจุบัน แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงการรับบุตรบุญธรรมและสวัสดิการต่างๆ
นายสมณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้ว กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพยังได้เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ของกรมฯ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ และจะเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นในส่วนภูมิภาค ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ สงขลา และขอนแก่น ตามลำดับ จากนั้น จะรวบรวมและประมวลความคิดเห็นที่ได้จากกระบวนการมีส่วนร่วมทั้งหมด เพื่อนำเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป