นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงกรณีการบริหารงานหอศิลป์ กรุงเทพมหานคร โดยยืนยันว่า กรุงเทพมหานครไม่เข้าไปบริหารงานในหอศิลป์ เป็นหน้าที่ของมูลนิธิหอศิลป์ที่จะดำเนินการบริหารจัดการ ส่วนประเด็นที่หอศิลป์ถูกตัดงบประมาณ จนจะถูกตัดน้ำ-ตัดไฟนั้น ได้สั่งการให้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ดำเนินการชำระค่าน้ำ-ค่าไฟ ให้กับมูลนิธิหอศิลป์ ในปี 2561 แล้วกว่า 9 ล้านบาท ภายใต้งบประมาณที่จัดสรรไว้ 40 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 30 ล้านบาท ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากขัดต่อข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินอุดหนุนของกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2560 ทำให้กรุงเทพมหานครต้องส่งเงินดังกล่าวกลับคืนเข้าสู่งบกลาง
ที่ผ่านมา การจัดสรรงบประมาณในปี 2562 กรุงเทพมหานครพยายามเสนองบผ่านสภากรุงเทพมหานคร ในหมวดของเงินอุดหนุน แต่ไม่มีรายละเอียดของมูลนิธิหอศิลป์ ที่ต้องเป็นผู้เสนอเข้ามา ประกอบกับติดขัดในเรื่องสัญญา ที่มูลนิธิหอศิลป์ ทำข้อตกลงร่วมกับกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2554 ทำให้การจัดสรรเงินให้กับมูลนิธิหอศิลป์ จึงต้องหยุดชะงัก
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงเชิญคณะกรรมการมูลนิธิฯ หารือร่วมกันวันจันทร์นี้ (1 ต.ค.) ในประเด็นการปรับแก้ไขข้อสัญญา เพื่อหาทางออกร่วมกัน ซึ่งที่ผ่านมายืนยันไม่เคยได้รับหนังสือการร้องขอให้แก้ไขสัญญาจากมูลนิธิฯ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวปรากฏรายชื่อทหารยศนายพล 3 นาย เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการสรรหานั้น รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้เป็นเพียงการทาบทามผู้ทรงคุณวุฒิ ยังไม่สรุปรายชื่อ ก่อนนำเสนอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพิจารณาอีกครั้ง โดยหลังจากที่ได้คณะกรรมการสรรหา 7 คนแล้ว คณะกรรมการชุดนี้จะดำเนินการไปทาบทาม คณะกรรมการมูลนิธิหอศิลป์อีก 12 คน เข้ามาบริหารงานในหอศิลป์ต่อไป