นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 22-27 กันยายนนี้ เป็นช่วงที่ฝนน้อยลงเกือบทุกภาค มีบ้างบางพื้นที่แต่ไม่มากนัก เนื่องจากระยะนี้ลมมรสุมที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อน ทั้งนี้ จะมีมวลอากาศเย็นปกคลุม และอาจจะแผ่ลงมาอีกกระลอกช่วงวันที่ 28-29 กันยายนนี้ ซึ่งจะมีฝนและฝนฟ้าคะนองในระยะแรกๆ แต่ปริมาณฝนที่จะตกลงมาเติมน้ำในเขื่อนหรือลุ่มน้ำต่างๆ นั้นไม่มีผลมากนัก อย่างไรก็ตาม วันนี้ต่อเนื่องถึงวันที่ 23 กันยายน มีพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากใน 8 จังหวัดภาคใต้ ประกอบด้วย จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
ขณะที่การติดตามสถานการณ์พายุในมหาสมุทรแปซิฟิกลูกที่ 28 ชื่อว่า "จ่ามี" (Trami) ล่าสุดได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนแล้ว กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือ คาดว่าไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษมีน้ำเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ของความจุ จำนวน 7 แห่ง ปัจจุบันยังเร่งพร่องน้ำเพื่อให้กลับสู่ระดับควบคุมปกติอย่างต่อเนื่อง เช่น เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร ปริมาณน้ำ 526 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 101 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.61 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออก 4.33 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ปริมาณน้ำ 684 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 96 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 5.64 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออก 8.67 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนกิ่วคอหมา จ.ลำปาง ปริมาณน้ำ 159 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 93 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.33 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออก 1.92 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนนฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรี ปริมาณน้ำ 270 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 92 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.96 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออก 6.52 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ปริมาณน้ำ 202 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.65 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออก 1.34 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำไหลผ่านทางระบายน้ำล้นสูง 2.78 เมตร เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา ปริมาณน้ำ 263 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 84 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 1.99 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออก 0.32 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา ปริมาณน้ำ 347 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 83 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำไหลเข้า 2.12 ล้านลูกบาศก์เมตร ไม่มีปริมาณน้ำไหลออก
นายสำเริง กล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำต่างๆ ที่มีน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง ได้แก่ แม่น้ำป่าสัก อ.หล่มสัก อ.เมืองเพชรบูรณ์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ แนวโน้มเพิ่มขึ้น แม่น้ำสงคราม จ.สกลนคร แนวโน้มลดลง ห้วยหลวง จ.อุดรธานี แนวโน้มลดลง แม่น้ำนครนายก บริเวณ อ.องครักษ์ จ.นครนายก แนวโน้มทรงตัว แม่น้ำบางปะกง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา แนวโน้มทรงตัวและคลองพระปรง อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว แนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำภาคตะวันออก เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกสะสมที่ผ่านมา และยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ส่วนภาคกลางและภาคใต้ไม่มีน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง