นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากการศึกษาโครงการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดที่กรุงเทพมหานครได้ศึกษาแนวทางการก่อสร้างถนนเพิ่มเติมในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างโครงการการจราจรในพื้นที่เมืองให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งในพื้นที่เชื่อมต่อฝั่งธนบุรี กรุงเทพมหานครได้ก่อสร้างถนนเชื่อมต่อแนวตะวันออก-ตะวันตก จากถนนจรัญสนิทวงศ์ บริเวณแยกไฟฉาย ยาวต่อเนื่องไปบรรจบกับวงแหวนกาญจนา ถนนกาญจนาภิเษก และต่อเนื่องถึงถนนพุทธมณฑลสาย 2 ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งช่วยแบ่งเบาปริมาณการจราจรบนถนนบรมราชชนนี และเพชรเกษม ได้อย่างมาก ถือเป็นโครงข่ายถนนที่ช่วยทำหน้าที่รับและกระจายปริมาณการจราจรสู่พื้นที่ชานเมือง
อย่างไรก็ตาม แนวถนนดังกล่าวนั้น กรุงเทพมหานครได้วางแนวก่อสร้างต่อเนื่องยาวไปบรรจบกับถนนพุทธมณฑลสาย 4 ที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งต้องก่อสร้างเพิ่มเติมอีกเป็นระยะทางรวม 7กิโลเมตร เมื่อก่อสร้างได้สมบูรณ์จะช่วยแก้ปัญหาการเป็นพื้นที่ปิดล้อม เพิ่มทางเลือกในการเดินทางระหว่างถนนในแนวใกล้เคียง คือ ถนนบรมราชชนนี และถนนเพชรเกษม ได้มากยิ่งขึ้
ทั้งนี้ ในช่วงของโครงการที่วางแผนจะต่อเชื่อมจากถนนพุทธมณฑลสาย 2 ต่อเนื่องถึงถนนพุทธมณฑลสาย 3 ระยะทางยาว 3.2 กิโลเมตร ซึ่งออกแบบเป็นถนนขนาด 8 ช่องจราจร งบประมาณก่อสร้าง 1,545 ล้านบาท ซึ่งตามแผนจะก่อสร้างในปี 2562 ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ในเส้นทางที่ต่อขยายไปถึงพุทธมณฑลสาย 4 นั้น มีบ้านเรือนที่ดินของประชาชนที่อยู่ในแนวการก่อสร้าง ซึ่งมีความจำเป็นต้องจัดกรรมสิทธิ์พื้นที่ เป็นที่ดินจำนวนถึง 387 แปลง สามารถจัดกรรมสิทธิ์ไปแล้ว 191 แปลง ส่วนในแนวถนนพุทธมณฑลสาย 2-สาย 3 ยังมีที่ดินที่ต้องจัดกรรมสิทธิ์และสิ่งปลูกสร้างอีกกว่า 80 แปลง โดยกรุงเทพมหานครได้จัดสรรงบประมาณเพื่อจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 90 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้น ซึ่งบางส่วนกรุงเทพมหานครได้สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านที่อยู่ในแนวเส้นทางโดยใช้วิธีการปรองดอง สร้างความเข้าใจเพื่อให้ชาวบ้านรื้อย้ายออกเพื่อการพัฒนาพื้นที่ แต่ในบางส่วนเมื่อไม่สามารถจัดกรรมสิทธิ์ในรูปแบบปรองดอง ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการออกกฎหมาย พ.ร.ฎ.เวนคืนพื้นที่ ทำให้โครงการก่อสร้างต่อขยายถนนดังกล่าวต้องชะลอกสาจัดสรรงบประมาณ เพื่อรอให้สามารถเวนคืนที่ดินได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เป็นอุปสรรคในการก่อสร้างล่าช้าต่อไป