xs
xsm
sm
md
lg

สทนช.สั่งเร่งพร่องน้ำ 5 เขื่อน เตือน 28 จังหวัดรับมือฝนหนักอีกระลอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต เปิดเผยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก และเขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบว่า เขื่อนแก่งกระจาน ปริมาณน้ำในเขื่อนยังคงที่ 754 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 106% น้ำล้นทางระบายน้ำ (หรือสปิลเวย์ สูง 98 เซนติเมตร ลดลง 1 เซนติเมตร ปริมาณน้ำไหลเข้า 12.69 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลง 1.02 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลออก 12.96 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลง 1.35 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีมีแนวโน้มลดลง โดยบริเวณ อ.แก่งกระจาน ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 93 เซนติเมตร อ.เมืองเพชรบุรี ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 33 เซนติเมตร ส่งผลให้พื้นที่น้ำท่วมริมสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรีลดลง และมีแนวโน้มกลับเข้าสู่ปกติในเร็วๆ นี้ โดยล่าสุด ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีไม่มีพื้นที่น้ำท่วมแล้ว

ขณะที่เขื่อนน้ำอูน ปริมาณน้ำ 570 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 110% ปริมาณน้ำไหลเข้า 11.43 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลง 1.01 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลออก 8.85 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 0.73 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง บริเวณบ้านนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม บ้านพอกใหญ่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร จากการเร่งพร่องน้ำให้เต็มศักยภาพของลำน้ำท้ายน้ำ เพื่อรองรับปริมาณฝนที่ตกเหนือเขื่อน

จากการประสานงานกับกรมชลประทานแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) จะเพิ่มการระบายน้ำผ่านทางกาลักน้ำอีก 1 ล้านลูกบาศก์เมตร

สำหรับเขื่อนวชิราลงกรณ ปริมาณน้ำ 8,195 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 93% ปริมาณน้ำไหลเข้า 97.69 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลง 14.66 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลออก 52.28 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลง 0.01 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันน้ำยังไม่สูงกว่าตลิ่ง

ขณะที่เขื่อนขุนด่านปราการชล ปริมาณน้ำ 193 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 86% ปริมาณน้ำไหลเข้า 6.09 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลง 1.06 ล้านลูกบาศก์เมตรปริมาณน้ำไหลออก 7.06 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลง 1.58 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำไหลผ่านทางระบายน้ำล้นสูง 46 เซนติเมตร ลดลง 11 เซนติเมตร

ส่วนเขื่อนปราณบุรี ปริมาณน้ำ 319 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 82% มีปริมาณน้ำไหลเข้า 9.93 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 1.91 ล้านลูกบาศก์เมตรปริมาณน้ำไหลออกวันละ 10.22 ล้านลูกบาศก์เมตร ลดลง 1 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายสำเริง กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 27-30 สิงหาคมนี้ ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย กับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ และยังคงพาดผ่านในบริเวณแนวเดิมช่วงวันที่ 31 สิงหาคม – 1 กันยายน ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนต่อเนื่อง และฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้

ขณะนี้ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยมีพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมาก 28 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ จ.เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน ตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด และภาคใต้ จ.ระนอง ซึ่งปริมาณฝน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังคงมีฝนตกปานกลางถึงหนักในภาคเหนือ สูงสุดที่ จ.เชียงราย 108.5 มิลลิเมตร แม่ฮ่องสอน 77.5 มิลลิเมตร น่าน 56.0 มิลลิเมตร ลำปาง 43.5 มิลลิเมตร เชียงใหม่ 42.5 มิลลิเมตร แพร่ 40.5 มิลลิเมตร สุโขทัย 39.8 มิลลิเมตร ตามลำดับ ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย 63.0 มิลลิเมตร และอุบลราชธานี 40.0 มิลลิเมตร ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ 69.0 มิลลิเมตร ลพบุรี 64.0 มิลลิเมตร เพชรบูรณ์ 53.2 มิลลิเมตร และภาคใต้ จ.ระนอง 63.5 มิลลิเมตร