xs
xsm
sm
md
lg

กรมชลประทานปรับแผนแก้ปัญหาน้ำล้นตลิ่งเมืองเพชรบุรี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์ลุ่มน้ำเพชรบุรีว่า น้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนแก่งกระจาน ปัจจุบัน (21 ส.ค.) 777 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 106 ของความจุอ่าง ระดับน้ำล้นทางระบายน้ำล้นสูงประมาณ 1.44 เมตร ได้เร่งระบายน้ำออกผ่านวิธีพิเศษ คือ ใช้กาลักน้ำ 22 ชุด รวมกับท่อส่งน้ำใต้อ่างและทางระบายน้ำล้นด้วยอัตรา 282 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือประมาณวันละ 24.36 ล้านลูกบาศก์เมตร ที่สถานีวัดน้ำ B.3A อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.22 เมตร และไหลมายังสถานี B.15 อ.เมือง จ.เพชรบุรี ระดับน้ำยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 0.05 เมตร ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีโดยรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากการที่มีน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจานอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรีปรับแนวทางบริหารจัดการน้ำที่เขื่อนเพชร เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่ระบายจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน โดยขอระบายน้ำลงแม่น้ำเพชรบุรี ประมาณ 130 – 140 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงทำให้กลางดึกของคืนวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา เกิดน้ำกัดเซาะบริเวณคันคลองฝั่งขวาของคลองส่งน้ำสายใหญ่ 3 (RMC 3) บริเวณที่ชาวบ้านฝั่งท่อระบายน้ำไว้ น้ำบ่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บริเวณฝั่งขวาของคลองส่งน้ำเป็นบริเวณกว้าง จึงสั่งการให้ปรับลดปริมาณน้ำที่เปิดเข้าคลองส่งน้ำสายใหญ 3 เป็นชั่วคราว เพื่อซ่อมแซมคันคลองในจุดที่ชำรุดดังกล่าว ซึ่งได้ซ่อมแซมเสร็จตั้งแต่ 04.30 น. สามารถใช้รับน้ำแล้วผันเข้าคลอง D9 ได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อระบายออกทะเลที่ปึกเตียน อำเภอท่ายางทางหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีปริมาณน้ำส่วนหนึ่งไหลผ่านเขื่อนเพชรลงแม่น้ำเพชรบุรีเกินเกณฑ์เฝ้าระวังที่ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยอยู่ที่ 162 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ กรมชลประทานจะควบคุมการระบายท้ายเขื่อนให้อยู่ที่ 150-160 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จนกว่าปริมาณน้ำสูงสุดที่ระบายจากเขื่อนแก่งกระจานจะลดลงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

นายทองเปลว กล่าวว่า แนวทางบริหารจัดการที่สำคัญเพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเพชรไม่ให้เกินเกณฑ์ควบคุม คือ จะเพิ่มปริมาณน้ำเข้าคลองส่งน้ำทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวารวม 4 สาย จากเดิมผันน้ำเข้า 90 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เปิดขยายทางน้ำให้รับได้เพิ่มถึง 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมปรับแผนจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีปริมาณน้ำส่วนหนึ่งที่ไหลล้นผ่านเขื่อนเพชรลงแม่น้ำเพชรบุรีเกินเกณฑ์เฝ้าระวังที่ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อจะลดผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งของแม่น้ำเพชรบุรี

นอกจากนี้ อีกมาตรการสำคัญที่กรมชลประทานร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำไปก่อนหน้านี้และขณะนี้ทำเพิ่ม คือ การเสริมแนวป้องกันน้ำในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ นำกระสอบทรายไปปิดท่อระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำดันออกมาตามท่อ ส่วนบริเวณที่มีน้ำซึมเข้ามาได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้เพื่อเร่งสูบกลับสู่แม่น้ำเพชรบุรี และยังมีเครื่องผลักดันน้ำ 33 เครื่องเป็นระยะ ๆ ในลำน้ำเพชรบุรีทำงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อเร่งผลักดันน้ำในจุดที่น้ำไหลช้า ส่วนที่ปลายน้ำมีเรือผลักดันน้ำรวม 26 ลำ เร่งระบายน้ำแม่น้ำเพชรบุรีออกสู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุด