วันนี้ (31 ก.ค.) มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์เนื่องในวันผู้พิทักษ์ป่าโลก ระบุว่า
วันที่ 31 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันที่เราทุกคนจะร่วมกันระลึกถึงผู้พิทักษ์ป่า ผู้พิทักษ์ป่าคือผู้ที่อุทิศตนทำงานอย่างเสียสละในการดูแลปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า จนหลายท่านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตลง ขณะปฏิบัติหน้าที่
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอร่วมระลึกถึงการทำงานของผู้พิทักษ์ป่า ที่มีความสำคัญในการปกป้องผืนป่า สัตว์ป่าให้กับคนไทยทุกคน
ผู้พิทักษ์ป่า เป็นกลุ่มคนหลักที่ปฏิบัติหน้าที่อนุรักษ์ผืนป่าของประเทศไทย ทั้งในตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ และพนักงานพิทักษ์ป่า นับจากก่อตั้งมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ตั้งแต่ปี 2533 หลังจากคุณสืบ นาคะเสถียร เสียชีวิตลง ภารกิจสำคัญสืบฯ คือการก่อตั้งกองทุนเพื่อผู้พิทักษ์ป่า มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ให้การช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ทั้งที่บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงการช่วยทุนการศึกษากับบุตรของผู้พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ทุกเดือนจนกระทั่งเยาวชนเหล่านั้นจบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย มาโดยตลอด
วันนี้ ผู้พิทักษ์ป่าได้ปฏิบัติหน้าที่จนเกิดเป็นรูปธรรม ในการดูแล ปกป้องผืนป่า และภัยคุกคามต่างๆ จนสัตว์ป่ามีการฟื้นฟูประชากรเพิ่มมากขึ้น การรักษาผืนป่าสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรม ผลของการทำงานจึงเป็นที่รับรู้ของสาธารณชนคนไทยทั่วไป ได้เข้าใจบทบาท คุณค่า และความสำเคัญในการดูแลรักษาผืนป่าของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ในวันนี้กลุ่มคนเหล่านี้จึงเข้ามาร่วมกันช่วยเหลือ สนับสนุนการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า
สิ่งที่สำคัญก็คือ หน่วยงานที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัด ก็คือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงหน่วยงานกรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เห็นคุณค่าความสำคัญ จนร่วมกันก่อตั้งเป็นมูลนิธิผู้พิทักษ์ป่า เพื่อจะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ตลอดจนการพัฒนาสวัสดิการ สวัสดิภาพ ให้กับเจ้าหน้าที่กลุ่มคนเหล่านี้
มูลนิธิสืบฯ ยังคงมุ่งมั่นที่สนับสนุนการทำงานของผู้พิทักษ์ป่า ในรูปแบบต่างๆ ต่อไป และหวังว่าอนาคตผู้พิทักษ์ป่าจะได้รับการยกระดับความสำคัญ จนเกิดแรงจูงใจในการที่จะเข้ามาทำงาน แม้ในภาวะที่มีความเสี่ยงจากการทำงานสูง และต้องทำงานอย่างเสียสละและทุ่มเท เพื่อที่จะให้บุคคลเหล่านี้ลดความกังวลต่อตัวเองและต่อครอบครัว มูลนิธิสืบนาคะเสถียรจึงมีข้อเสนอต่อหน่วยงานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาสวัสดิการ สวัสดิภาพ ให้กับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ดังต่อไปนี้
1. โปรดปรับปรุงสวัสดิการของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ให้มีมาตรฐานการดำเนินชีวิตและการทำงานอย่างเหมาะสม โดยดำเนินการในทันที เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ในวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก วันนี้
2. การสร้างแรงจูง และความภาคภูมิใจ ให้ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงาน ทั้งการปรับค่าตอบแทนให้เป็นตามมาตรฐาน การปรับปรุงระบบสวัสดิการ สวัสดิภาพ และเร่งการทำประกันชีวิตให้กับผู้ที่ทำงานและมีภาวะความเสี่ยงในการเดินลาดตระเวนป่า และการปรับโครงสร้างบุคลากรที่เข้ามาทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าอย่างจริงจัง โดยกรอบการปรับตำแหน่งลูกจ้างประจำ ตำแหน่ง พนักงานพิทักษ์ป่า ระดับ ส.2 ไปเป็นระดับ ส.3 ควรเป็นไปอย่างเป็นธรรม และสรรหาผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้จะมาช่วยทำงานในหน้าที่ระดับผู้ช่วยหัวหน้าพื้นที่คุ้มครอง และมีบทบาทสำคัญในการรับผิดชอบหน่วยพิทักษ์ป่า หรืองานบริหารต่างๆ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคคลเหล่านี้ให้สามารถทำหน้าที่สำคัญๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ควรผลักดันให้ผู้พิทักษ์ป่ามีการตั้งกลุ่ม สมาคม หรือสมาพันธ์ เพื่อยกระดับอาชีพผู้ปฏิบัติงานพิทักษ์ป่าไปสู่สากล นั่นหมายถึงการทำงานอย่างมีมาตรฐาน และการดูแลผู้พิทักษ์ป่าก็มีมาตรฐานด้วยเช่นกัน และสามารถที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายผู้พิทักษ์ป่าไปสู่ผู้พิทักษ์ป่าอื่นๆ ทั่วโลก เนื่องจากงานอนุรักษ์ และงานป้องกันการค้าสัตว์ป่า พันธุ์พืช มีความเชื่อมโยงข้ามพรมแดนมากขึ้น ทั้งกลุ่มองค์กรที่ตั้งนี้ยังจะสามารถเชื่อมโยงการทำงานกับมูลนิธิผู้พิทักษ์ป่าได้ต่อไป
วันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก จึงจะเป็นวันที่มีความหมายอย่างแท้จริงสำหรับกลุ่มคนนี้ ทั้งในวันนี้ และวันหน้า
ที่มา : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร https://www.youtube.com/watch?time_continue=12&v=8t5jkeaU0pI
วันที่ 31 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันที่เราทุกคนจะร่วมกันระลึกถึงผู้พิทักษ์ป่า ผู้พิทักษ์ป่าคือผู้ที่อุทิศตนทำงานอย่างเสียสละในการดูแลปกป้องผืนป่า สัตว์ป่า จนหลายท่านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตลง ขณะปฏิบัติหน้าที่
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอร่วมระลึกถึงการทำงานของผู้พิทักษ์ป่า ที่มีความสำคัญในการปกป้องผืนป่า สัตว์ป่าให้กับคนไทยทุกคน
ผู้พิทักษ์ป่า เป็นกลุ่มคนหลักที่ปฏิบัติหน้าที่อนุรักษ์ผืนป่าของประเทศไทย ทั้งในตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว พนักงานราชการ และพนักงานพิทักษ์ป่า นับจากก่อตั้งมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ตั้งแต่ปี 2533 หลังจากคุณสืบ นาคะเสถียร เสียชีวิตลง ภารกิจสำคัญสืบฯ คือการก่อตั้งกองทุนเพื่อผู้พิทักษ์ป่า มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ให้การช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ทั้งที่บาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงการช่วยทุนการศึกษากับบุตรของผู้พิทักษ์ป่าที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ ทุกเดือนจนกระทั่งเยาวชนเหล่านั้นจบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย มาโดยตลอด
วันนี้ ผู้พิทักษ์ป่าได้ปฏิบัติหน้าที่จนเกิดเป็นรูปธรรม ในการดูแล ปกป้องผืนป่า และภัยคุกคามต่างๆ จนสัตว์ป่ามีการฟื้นฟูประชากรเพิ่มมากขึ้น การรักษาผืนป่าสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรม ผลของการทำงานจึงเป็นที่รับรู้ของสาธารณชนคนไทยทั่วไป ได้เข้าใจบทบาท คุณค่า และความสำเคัญในการดูแลรักษาผืนป่าของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ในวันนี้กลุ่มคนเหล่านี้จึงเข้ามาร่วมกันช่วยเหลือ สนับสนุนการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า
สิ่งที่สำคัญก็คือ หน่วยงานที่เป็นหน่วยงานต้นสังกัด ก็คือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงหน่วยงานกรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เห็นคุณค่าความสำคัญ จนร่วมกันก่อตั้งเป็นมูลนิธิผู้พิทักษ์ป่า เพื่อจะช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ตลอดจนการพัฒนาสวัสดิการ สวัสดิภาพ ให้กับเจ้าหน้าที่กลุ่มคนเหล่านี้
มูลนิธิสืบฯ ยังคงมุ่งมั่นที่สนับสนุนการทำงานของผู้พิทักษ์ป่า ในรูปแบบต่างๆ ต่อไป และหวังว่าอนาคตผู้พิทักษ์ป่าจะได้รับการยกระดับความสำคัญ จนเกิดแรงจูงใจในการที่จะเข้ามาทำงาน แม้ในภาวะที่มีความเสี่ยงจากการทำงานสูง และต้องทำงานอย่างเสียสละและทุ่มเท เพื่อที่จะให้บุคคลเหล่านี้ลดความกังวลต่อตัวเองและต่อครอบครัว มูลนิธิสืบนาคะเสถียรจึงมีข้อเสนอต่อหน่วยงานกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาสวัสดิการ สวัสดิภาพ ให้กับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ดังต่อไปนี้
1. โปรดปรับปรุงสวัสดิการของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ให้มีมาตรฐานการดำเนินชีวิตและการทำงานอย่างเหมาะสม โดยดำเนินการในทันที เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ในวันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก วันนี้
2. การสร้างแรงจูง และความภาคภูมิใจ ให้ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงาน ทั้งการปรับค่าตอบแทนให้เป็นตามมาตรฐาน การปรับปรุงระบบสวัสดิการ สวัสดิภาพ และเร่งการทำประกันชีวิตให้กับผู้ที่ทำงานและมีภาวะความเสี่ยงในการเดินลาดตระเวนป่า และการปรับโครงสร้างบุคลากรที่เข้ามาทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าอย่างจริงจัง โดยกรอบการปรับตำแหน่งลูกจ้างประจำ ตำแหน่ง พนักงานพิทักษ์ป่า ระดับ ส.2 ไปเป็นระดับ ส.3 ควรเป็นไปอย่างเป็นธรรม และสรรหาผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้จะมาช่วยทำงานในหน้าที่ระดับผู้ช่วยหัวหน้าพื้นที่คุ้มครอง และมีบทบาทสำคัญในการรับผิดชอบหน่วยพิทักษ์ป่า หรืองานบริหารต่างๆ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคคลเหล่านี้ให้สามารถทำหน้าที่สำคัญๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. ควรผลักดันให้ผู้พิทักษ์ป่ามีการตั้งกลุ่ม สมาคม หรือสมาพันธ์ เพื่อยกระดับอาชีพผู้ปฏิบัติงานพิทักษ์ป่าไปสู่สากล นั่นหมายถึงการทำงานอย่างมีมาตรฐาน และการดูแลผู้พิทักษ์ป่าก็มีมาตรฐานด้วยเช่นกัน และสามารถที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายผู้พิทักษ์ป่าไปสู่ผู้พิทักษ์ป่าอื่นๆ ทั่วโลก เนื่องจากงานอนุรักษ์ และงานป้องกันการค้าสัตว์ป่า พันธุ์พืช มีความเชื่อมโยงข้ามพรมแดนมากขึ้น ทั้งกลุ่มองค์กรที่ตั้งนี้ยังจะสามารถเชื่อมโยงการทำงานกับมูลนิธิผู้พิทักษ์ป่าได้ต่อไป
วันเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าโลก จึงจะเป็นวันที่มีความหมายอย่างแท้จริงสำหรับกลุ่มคนนี้ ทั้งในวันนี้ และวันหน้า
ที่มา : มูลนิธิสืบนาคะเสถียร https://www.youtube.com/watch?time_continue=12&v=8t5jkeaU0pI