xs
xsm
sm
md
lg

กพช.ไฟเขียวเปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ-บงกช

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแหงชาติ หรือ คสช. กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า วันนี้ (23 เม.ย.) จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้ทันต่อสถานการณ์ แล้วสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งวาระสำคัญคือ การประมูลสัมปทานใหม่ที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในสิ่งที่ยังเป็นปัญหาในปัจจุบัน ด้วยความไม่เข้าใจและมุมมองที่แตกต่างกัน สิ่งที่เราจะทำได้คือต้องพิจารณาในทุกมิติว่าจะทำอย่างไร เพื่อเกิดความเป็นธรรมของผู้ประกอบการ และโดยเฉพาะประชาชนผู้ที่จะได้รับประโยชน์จัดการใช้พลังงานเหล่านี้ ซึ่งต้องทำให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในอนาคตด้วย เพราะจำเป็นต้องมีแหล่งพลังงานให้สอดคล้องกับอุตสาหกรรมใหม่ และอุตสาหกรรมเดิม รวมถึงการใช้พลังงานของชุมชนต่างๆ จึงต้องจะมาหารือเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมรบทราบการดำเนินงานของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ในการเปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติ ที่กำลังจะสิ้นอายุสัมปทาน ในปี 2565-2566 แหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช โดยให้ออกประกาศเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประมูล ในวันที่ 24 เม.ย. 2561 ตามทีโออาร์การเปิดประมูลระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (Production Sharing Contract : PSC) โดยได้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขหลักในการประมูลไว้ ดังนี้

ผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตต้องผลิตก๊าซธรรมชาติปริมาณการผลิตขั้นต่ำ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา10 ปี ในแปลงสำรวจหมายเลข G1/61 และต้องผลิตก๊าซธรรมชาติในปริมาณการผลิตขั้นต่ำ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี ในแปลงสำรวจหมายเลข G2/61 โดยผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องเสนอราคาก๊าซธรรมชาติที่ไม่สูงไปกว่าราคาเฉลี่ยของราคาก๊าซธรรมชาติ ในปัจจุบัน ตามสูตรราคาที่กำหนดในเงื่อนไขการประมูล พร้อมให้ผู้เข้าร่วมประมูลเสนอสัดส่วนการแบ่งกำไรให้แก่รัฐ ซึ่งจะต้องไม่ต่ำกว่า 50% และเสนอผลประโยชน์พิเศษต่าง ๆ เช่น โบนัสการลงนาม โบนัสการผลิต และผลประโยชน์พิเศษอื่นๆ และผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องเสนอสัดส่วนการจ้างพนักงานไทยไม่ต่ำกว่า 80% ในสิ้นปีที่ 1 และไม่ต่ำกว่า 90% ในสิ้นปีที่ 5 ของการดำเนินงาน

ทั้งนี้ แหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณและบงกช เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติหลักของประเทศ โดยปัจจุบันทั้ง 2 แหล่ง มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 2,110 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน คิดเป็น 75% ของก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ในอ่าวไทย สำหรับกลุ่มแหล่งเอราวัณมีปริมาณการผลิต 1,240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

สำหรับการดำเนินงานของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ตามสัญญาสัมปทาน เลขที่ 1/2515/5 และเลขที่ 2/2515/6 ซึ่งจะสิ้นอายุสัมปทาน วันที่ 23 เม.ย. 2565 ขณะที่กลุ่มแหล่งบงกชมีปริมาณการผลิต 870 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ตามสัญญาสัมปทาน เลขที่ 5/2515/9 โดยจะสิ้นอายุสัมปทาน วันที่ 23 เม.ย. 2565 และสัญญาสัมปทาน เลขที่ 3/2515/7 และจะสิ้นอายุสัมปทาน วันที่ 7 มี.ค. 2566

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า แหล่งพลังงาน ทั้งสองมีปริมาณก๊าชธรรมชาติเหลือประมาณ ร้อยละ 25-30 ซึ่งทางกรมเชื่อเพลิงพลังงาน ประเมินแล้ว จะมีเพียงพอต่อการผลิตต่อเนื่องใน 10 ปี โดยมีปริมาณการผลิต 1,500 ล้านลูกบาศฟุตต่อวัน และคาดหวังว่าจะมีผู้ร่วมประมูล มากกว่า 3 รายชื่อ ซึ่งจะมีกลุ่มบริษัท ปตท.สผ. ยื่นเอกสารเข้าร่วมประมูลด้วยทั้ง 2 แหล่ง

สำหรับคุณสมบัติบริษัทที่จะเข้ายื่นประมูล เบื้องต้นกำหนดไว้ว่าแหล่งเอราวัณบริษัทต้องมีทุนจดทะเบียน 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่แหล่งบงกช ทุนจดทะเบียน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และต้องมีอัตรากำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 100 ล้านลูกบาศฟุตต่อวัน

ส่วนขั้นตอนเมื่อมีการประกาศเชิญชวนเอกชนมาลงทุนแล้วตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.เป็นต้นไป จากนั้นจะมีการคัดกรองบริษัทที่มีคุณสมบัติ เบื้องต้น ให้แล้วเสร็จในสิ้นเดือนพ.ค.นี้ และให้บริษัทที่ผ่านการคัดกรองมาศึกษาข้อมูล แหล่งผลิตต่างๆเป็นเวลา 4 เดือน แล้วให้บริษัทยื่นข้อเสนอมาในปลายเดือนก.ย. จากนั้นทางกรมเชื่อเพลิงพลังงานจะใช้เวลาพิจารณาข้อเสนอจากบริษัทเอกชน 2 เดือนครึ่ง และจะประกาศบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก ทั้งสองแหล่งภายในสิ้นเดือนธ.ค. และจะลงนามในสัญญาภายในเดือนก.พ.2562 ขณะที่บริษัทเชพรอน ก็ยังมีความสนใจที่ยังจะประมูลแหล่งเอราวัณต่อแต่ในแหล่งบงกช ยังไม่ได้รับคำยืนยันว่าจะร่วมประมูลหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น