ธปท.แนะจับตาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน คาดทำส่งออกไทยชะลอตัว

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แนะนำว่า ควรจับตาทิศทางเศรษฐกิจในอีก 6-12 เดือนข้างหน้านี้ จากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ให้ดูท่าทีการตอบโต้ของประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะจีน ที่หากรุนแรงขึ้นจะเกิดเป็นสงครามการค้าจะส่งผลกระทบทั่วโลก ส่วนประเทศไทยยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะมีกลุ่มสินค้าส่งออกยังสหรัฐฯ ประเภทเหล็ก อลูมิเนียม ในสัดส่วนน้อยมาก แต่ต้องระวังผลกระทบกับสินค้าส่งออกที่อยู่ในห่วงการผลิตของประเทศคู่ค้ากับสหรัฐฯ ได้ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยให้ชะลอตัว

นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจของประเทศได้ จากปัจจัยเสี่ยงฉุดรั้งเศรษฐกิจ3ด้าน คือ เรื่องตลาดเงินที่จะเกิดความผันผวนปรับฐานรุนแรง ความไม่แน่นอนจากนโยบายการของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง

ส่วนประเด็นที่ไทยอาจมีรายชื่อในประเทศที่ธนาคารกลางใช้นโยบายการเงินบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยนกับสหรัฐฯ ยืนยันว่า ไทยไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงิน และปัจจุบันใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว แต่เพื่อป้องกันผลกระทบต่อภาคธุรกิจจากการไหลเข้า-ออกเร็วของเงินทุนเคลื่อนย้าย หนุนการเติบโตเศรษฐกิจโดยรวม จึงจำเป็นต้องดูแลค่าเงินใกล้ชิดและใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย

ทั้งนี้ คาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2561 จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก ที่ประมาณการณ์จีดีพี จะปรับเพิ่มขึ้นจาก 3.9% มาอยู่ที่ 4.1% ไปจนถึงปี 2562 แต่ยังต้องรอประเมินผลกระทบจากมาตรการกีดกันการค้า ที่อาจมีการทบทวนปรับลดประมาณการณ์ได้