xs
xsm
sm
md
lg

ร.10 โปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ตามที่​​สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดงาน "เถลิงศกสุขสันต์ มหาสงกรานต์ ตำนานไทย" เพื่อร่วมกันปลูกฝังความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณและอดีตพระมหาราช ส่งเสริม สืบสานศิลปวัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามของชาติ รวมทั้งความหมายที่แท้จริงของประเพณีสงกรานต์ และสร้างความสามัคคี สนุกสนานรื่นเริงร่วมกัน ระหว่างวันที่ 6– 8 เมษายน 2561 ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า

วันนี้ (6 เมษายน 2561) ได้มีการจัดพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สนามเสือป่า ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นประธานฝ่ ายสงฆ์และนำพระสงฆ์ รวมจำนวน 239 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์

โดยเมื่อเวลา 18.10 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.อ.เกษม อยู่สุข อัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) ไปในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ สนามเสือป่า เมื่อ พล.อ.อ.เกษม ถึงยังพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ขึ้นไปที่ชั้น 3 เข้าห้องพระวางพวงมาลัย จุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูปฯ และอัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) จากชั้น 3 มาประดิษฐานยังรถยนต์พระประเทียบ บริเวณด้านหน้าองค์พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต จากนั้นรถยนต์พระประเทียบอัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) ออกจากหน้าองค์พระที่นั่งอัมพรสถาน ถึงประตูภูธรลีลาศ พล.อ.อ.เกษม อัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) ส่งให้นายทหาดมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เพื่ออัญเชิญขึ้นพระราชยานอัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) ไปยังพลับพลาพิธีสนามเสือป่า

เมื่อขบวนพระราชยานอัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) เคลื่อนผ่าน สาธุชนที่มาร่วมอยู่ในมณฑลพิธีต่างพนมมือแล้วกล่าวคำว่า "สาธุ" ดังกึกก้อง และเมื่อขบวนพระราชยานถึงยังพลับพลาพิธี นายทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ อัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) ขึ้นประดิษฐานที่โต๊ะหมู่บูชา เรียบร้อยแล้ว พล.อ.อ.เกษม กราบพระชัย (หลังช้าง) ที่โต๊ะหมู่บูชา ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไหว้สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ต่อมา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และผู้แทนพระองค์ในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เดินทางโดยรถยนต์ประเทียบมายังพระลานพระราชวังดุสิต ลงจากรถประเทียบไปยังบริเวณหน้าพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วางพวงมาลัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ และเดินทางออกจากพระบรมราชานุสรณ์ โดยรถพระประเทียบไปยังสนามเสือป่า อันเป็นมณฑลพิธี แล้วจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระชัย (หลังช้าง) จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายความเคารพพระราชอาสน์ แล้วนั่งเก้าอี้ข้างพระราชอาสน์

จากนั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานฝ่ายสงฆ์ ให้ศีล พระสงฆ์ 239 รูป สวดมาติกา จบแล้วเจ้าพนักงานภูษามาลาลาดพระภูษาโยง ผู้แทนพระองค์ทอดผ้าไตรพระสงฆ์แถวหน้า 10 รูป จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทอดผ้าไตรจนครบ 239 รูป เมื่อจบแล้วพระสงฆ์สดับปกรณ์ กรวดน้ำ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาอาราธนาพระปริตร จากนั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระสงฆ์ 239 รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ระหว่างที่พระสงฆ์ 239 รูปเจริญพระพุทธมนต์ ข้าราชการพลเรือน ทหาร และประชาชนที่อยู่ในมณฑลพิธี ณ สนามเสือป่า ได้ร่วมกันสวดมนต์อย่างพร้อมเพรียงเสียงดังกึกก้อง และเมื่อพระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว ผู้แทนพระองค์ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระสงฆ์ 10 รูป นอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมจนครบ 239 รูป จากนั้นพระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ผู้แทนพระองค์กราบที่หน้าเครื่องนมัสการ กราบที่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และพระฉายาลักษณ์ ถวายความเคารพพระราชอาสน์

เมื่อเสร็จสิ้นพิธีมหามงคลแล้ว พล.อ.อ.เกษม กราบพระชัย (หลังช้าง) ที่โต๊ะหมู่บูชา แล้วให้นายทหารมหาดเล็กฯ อัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) ออกจากโต๊ะหมู่บูชา ขึ้นพระราชยานอัญเชิญพระชัย (หลังช้าง) ออกจากพลับพลาพิธี ไปยังรถยนต์พระประเทียบ ที่ประตูภูธรลีลาศ เพื่อกลับมาประดิษฐานที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ตามเดิม

สำหรับบรรยกาศภายในสนามเสือป่า และพระลานพระราชวังดุสิต อันเป็นสถานที่จัดงาน ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เปิดจุดคัดกรองทั้ง 3 จุด มีประชาชนเป็นจำนวนมากพร้อมใจใส่เสื้อลายดอก ชุดไทย และชุดสุภาพ ทยอยเดินทางมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพิธีครั้งมหากุศลในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้นำหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์เพื่อพระราชทานให้แก่พสกนิกรที่มาร่วมในพิธีครั้งนี้จำนวนกว่า 10,000 เล่ม โดยทรงออกแบบภาพปกและพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้เชิญอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ฉายกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ภาพวาดฝีพระหัตถ์เป็นภาพประเพณีสงกรานต์ต่าง ๆ เช่น การสรงน้ำพระ การก่อพระเจดีย์ทราย การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ และภายในเล่มลงพิมพ์พระบรมสาทิสลักษณ์ของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงตั้งพระราชปณิธานในอันที่จะทรงทำนุบำรุงประเทศชาติและประชาชนให้ร่มเย็นเป็นสุข ซึ่งประชาชนที่ได้รับหนังสือสวดมนต์ต่างปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

ส่วนบริเวณหน้างานที่พระลานพระราชวังดุสิต มีสระน้ำพุตกแต่งด้วยขันเงินจำลองขนาดใหญ่ ได้รับความสนใจจากประชาชนมาร่วมถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับบริเวณพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีการตกแต่งด้วยเจดีย์ทรายและกองทราย รอบ ๆ จัดแสดงนิทรรศการความเป็นมาของประเพณีสงกรานต์ รวมไปถึงกิจกรรมถ่ายภาพ 3 มิติ กิจกรรมสาธิตการสานปลาตะเพียน การปรุงเครื่องหอม การทำอาหารและขนมไทยที่หารับประทานได้ยาก และกิจกรรมถ่ายภาพย้อนยุค

ขณะเดียวกัน ภายในสนามเสือป่ายังมีการออกร้านจำหน่ายอาหารและขนมไทย ร้านจิตอาสา 904 จำหน่ายกระเป๋าและเสื้อจิตอาสา ร้านมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ฯลฯ ให้แก่ผู้มาร่วมงานได้มาชมและชอปกันอย่างมากมาย

ส่วนในวันที่ 7– 8 เมษายน 2561 ที่สนามเสือป่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เชิญพระพุทธกำเนิดกาสาวพัตร์ พระพุทธรูปสำคัญที่หล่อขึ้นเมื่อครั้งทรงผนวช วันที่ 6 พฤศจิกายน 2521 มาประดิษฐานให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคล และได้จัดสถานที่ให้ประชาชนรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ในครอบครัว ชมนิทรรศการความเป็นมาของประเพณีสงกรานต์ การแข่งขันก่อพระเจดีย์ทรายชิงโล่พระราชทาน การแสดงทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น การละเล่นของหลวงสืบมาแต่โบราณ "โมงครุ่ม"และ "กุลาตีไม้" การแสดงโขน ตอน หนุมานชาญกำแหง การบรรเลงดนตรีไทย การสาธิตการปรุงเครื่องหอม การทำอาหารและขนมไทยที่หารับประทานได้ยาก เป็นต้น

สำหรับประชาชนที่จะมาร่วมงานในระหว่างวันที่ 6-8 เมษายน ต้องพกบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงที่จุดคัดกรองทั้ง 4 จุด ประกอบด้วย 1. ตรงข้ามกองบัญชาการตำรวจนครบาล 2.ข้างธนาคารทหารไทย ตรงข้ามวัดเบญจฯ 3.ถนนอู่ทอง โค้ง ปตท. และ 4. เกาะกลางถนนราชดำเนินนอก โดยจุดคัดกรองที่ 1-3 จะเปิดในเวลา 10.00 น. และจุดคัดกรองที่ 4 เปิดให้บริการในเวลา 18.00 น. โดยงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ของทุกวัน ประชาชนที่มาร่วมงานควรแต่งกายชุดไทยชุดสุภาพ ชุดผ้าลายดอก งดกางเกงขาสั้น เสื้อสายเดี่ยว ปืนฉีดน้ำ ประแป้ง

ส่วนการเดินทางได้จัดบริการรถรับส่งฟรีจำนวน 5 เส้นทาง คือ 1.จากสถานีขนส่งจตุจักร - แยกอู่ทองใน 2.วงเวียนใหญ่ - แยกวังแดง 3.สนามม้านางเลิ้ง - แยกวัดเบญจฯ 4.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิฝั่งพญาไท - แยกวัดเบญจฯ และ 5.สนามหลวง - กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งรถคันแรกจะออกในเวลา 09.00 น. และคันสุดท้ายออกเวลา 21.00 น.

สำหรับวันพรุ่งนี้ (7 เม.ย.) เวลา 13.00 น. จะมีพิธีอัญเชิญพระพุทธกำเนิดกาสาวพัตร์ จากพระราชวังพระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต ไปประดิษฐานยังบุษบกด้านหลังพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ประชาชนได้สักการะและสรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคล


กำลังโหลดความคิดเห็น