วันนี้ (21 มี.ค.) คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ที่มีศาสตราจารย์นายแพทย์ จรัส สุวรรณเวลา เป็นประธาน มีมติให้ทบทวนเนื้อหาในร่างพระราชบัญญัติการปฐมวัย โดยเฉพาะประเด็นการปกป้องพัฒนาการเด็กปฐมวัย ที่มีเนื้อหาห้ามสถานศึกษา หรือโรงเรียน รับเด็กปฐมวัยเข้าศึกษา โดยใช้วิธีการสอบคัดเลือก หรือทดสอบสมรรถนะ คุณลักษณะ ความรู้ หรือ ความสามารถอื่นใดของเด็กปฐมวัย
ทั้งนี้ แม้ผู้ร่างจะมองว่า เด็กวัยนี้ไม่ควรที่จะมุ่งเรียนเพื่อการแข่งขัน แต่หากบังคับใช้กฎหมายย่างจริงจังจะกระทบในวงกว้าง เช่น เมื่อครูทำการทดสอบเด็กให้แยกสี หรือ ผูกเชือกรองเท้า เท่ากับว่าเป็นการทดสอบแล้ว ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายในมาตรานี้ อาจทำให้โดนปรับตามวงเงินที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 500,000 บาท เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้สถานศึกษาไม่อยากรับเด็กเข้าเรียน
นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาเรื่องคำนิยามของเด็กปฐมวัยที่ให้หมายความถึงบุคคล ซึ่งอายุต่ำกว่า 8 ปี บริบูรณ์และให้หมายรวมถึงทารกในครรภ์มารดาตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงก่อนคลอดด้วย ซึ่งประเด็นนี้อาจจะไปทับซ้อนกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจำนวนคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่มีมากเกินไป
ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ระบุว่า หลังจากนี้จะไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และคาดว่าจะนำร่าง พ.ร.บ.การปฐมวัย เข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยการจัดทำร่างกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ที่เด็กไทยทุกคนตั้งแต่อายุ 3 ปี ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ แม้ผู้ร่างจะมองว่า เด็กวัยนี้ไม่ควรที่จะมุ่งเรียนเพื่อการแข่งขัน แต่หากบังคับใช้กฎหมายย่างจริงจังจะกระทบในวงกว้าง เช่น เมื่อครูทำการทดสอบเด็กให้แยกสี หรือ ผูกเชือกรองเท้า เท่ากับว่าเป็นการทดสอบแล้ว ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายในมาตรานี้ อาจทำให้โดนปรับตามวงเงินที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 500,000 บาท เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้สถานศึกษาไม่อยากรับเด็กเข้าเรียน
นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาเรื่องคำนิยามของเด็กปฐมวัยที่ให้หมายความถึงบุคคล ซึ่งอายุต่ำกว่า 8 ปี บริบูรณ์และให้หมายรวมถึงทารกในครรภ์มารดาตั้งแต่ปฏิสนธิจนถึงก่อนคลอดด้วย ซึ่งประเด็นนี้อาจจะไปทับซ้อนกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจำนวนคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่มีมากเกินไป
ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ระบุว่า หลังจากนี้จะไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย และคาดว่าจะนำร่าง พ.ร.บ.การปฐมวัย เข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยการจัดทำร่างกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ที่เด็กไทยทุกคนตั้งแต่อายุ 3 ปี ได้รับการศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย