นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 53,049 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 75 หากเทียบวันเดียวกันของปี 2560 ปริมาณน้ำในปีนี้มีมากกว่า ประมาณ 7,239 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนปริมาณน้ำใช้การได้ในช่วงหน้าแล้งปีนี้ มีอยู่รวมกันประมาณ 29,505 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 62
ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่พบปัญหาการขาดแคลนน้ำ ในพื้นที่ชลประทานทั่วประเทศเนื่องจากกรมชลประทานได้จัดสรรน้ำจากอ่างเก็บน้ำหรือแหล่งน้ำต้นทุนในแต่ละพื้นที่ เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคไว้อย่างเพียงพอ ตลอดในช่วงหน้าแล้งไปจนถึงเดือนกรกฎาคมนี้
ขณะที่กรมชลประทาน โดยสำนักเครื่องจักรกล ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำ และรถยนต์บรรทุกน้ำ จากส่วนกลางเข้าไปเตรียมพร้อมสนับสนุนเพิ่มเติม จากของเดิมที่มีประจำการอยู่แล้วในโครงการชลประทานทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งได้อย่างทั่วถึงมากที่สุด พร้อมทั้งให้โครงการชลประทานทุกแห่งเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ของตนอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้บริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่ชลประทานด้วยการใช้ระบบชลประทานที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และให้จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ รถยนต์บรรทุกน้ำ ให้มีความพร้อมที่จะสามารถนำไปช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำได้ทันที หากมีการร้องขอ
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำไว้จำนวนทั้งสิ้น 2,365 เครื่อง โดยกระจายอยู่ตามสำนักงานชลประทานต่างๆ ทั่วประเทศ 1,702 เครื่อง และสํารองไว้ที่ส่วนกลางอีก 663 เครื่อง ซึ่งพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการอุปโภคบริโภค ทั้งพื้นที่ในเขตและนอกเขตชลประทาน นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์บรรทุกน้ำที่กระจายอยู่ตามโครงการชลประทานต่างๆ ทั่วประเทศอีก 242 คัน ที่พร้อมจะให้การสนับสนุนในกรณีเกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำ
สำหรับประชาชนที่ประสบกับปัญหาภัยแล้งหรือขาดแคลนน้ำ สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากโครงการชลประทานในพื้นที่ได้ตลอดเวลา