xs
xsm
sm
md
lg

ผู้แทน 11 รพ.หารือจัดงบ"ก้าว"งวดแรกตามจำนวนเตียง ตัดยอดที่ 1,300 ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.นิมิตร์ สะโมทาน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในฐานะประธานมูลนิธิ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ประชุมร่วมกับผู้แทนโครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาล และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั้ง 11 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลยะลา โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี โรงพยาบาลสระบุรี โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลน่าน และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เพื่อหารือถึงการจัดสรรงบประมาณตามโครงการดังกล่าวงวดแรก ตัดยอดเงินบริจาคในโครงการฯ 1,300 ล้านบาท

นายแพทย์อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การจัดสรรงบประมาณจากเงินบริจาคโครงการก้าวคนละก้าว จะพิจารณาตามจำนวนเตียงเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยโรงพยาบาลสระบุรี ได้รับ 8 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 104 ล้านบาท โรงพยาบาลราชบุรี ได้รับ 10 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 130 ล้านบาท โรงพยาบาลยะลาได้รับ 7 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 91 ล้านบาท โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ได้รับ 7 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 91 ล้านบาท โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้รับ 12 เปอร์เซ็นต์ บวกค่าบริหารจัดการ 5 เปอร์เซ็นต์ รวมเป็นเงิน 221 ล้านบาท โรงพยาบาลน่านได้รับ 7 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 91 ล้านบาท โรงพยาบาลนครพิงค์ได้รับ 7 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 91 ล้านบาท โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้รับ 8.5 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 110.5 ล้านบาท, รพ.สุราษฏร์ธานีได้รับ 10.5 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 136.5 ล้านบาท โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ได้รับ 7 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 91 ล้านบาท และโรงพยาบาลขอนแก่น ได้รับ 11 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นเงิน 143 ล้านบาท

สำหรับวัตถุประสงค์ของการรับบริจาคเงินในโครงการก้าวคนละก้าว จะนำไปจัดสรรซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ แตกต่างกันไป และจากนี้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขจะมีการหารือถึงการใช้เงิน และวางระบบการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่แต่ละรพ.ต่างกังวล ดังนั้นจะมีระบบตรวจสอบ กำกับการใช้งบฯ อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้

ด้าน พล.ต.นพ.พีระพล ปกป้อง เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า การจัดสรรครั้งนี้เป็นเงินก้อนแรก ตัดยอดที่ 1,300 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลเพื่อนำไปจัดซื้ออุปรณ์การแพทย์ตามความจำเป็น โดยเรื่องของการตรวจสอบการใช้เงินนั้นแต่ละโรงพยาบาลไปวางมาตรฐานกันเอง ส่วนทางโครงการไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแต่อย่างใด ส่วนยอดการบริจาคในโครงการที่จะเข้ามาหลังจากนี้จนถึง 31 พฤษภาคมนั้น ยังคงจัดสรรให้กับ 11 โรงพยาบาลเดิม แต่โรงพยาบาลเหล่านี้สามารถนำไปต่อยอดให้กับสถานพยาบาลในเครือข่ายต่อไปได้


กำลังโหลดความคิดเห็น