นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) เตรียมความพร้อมรับการเดินทางเข้า-ออก ด่านศุลกากรสะเดาและด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสำคัญที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
นายสืบสวัสดิ์ สาครินทร์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่จะถึงนี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวผ่านด่านพรมแดนสะเดาและปาดังเบซาร์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ได้รับการประสานจากบริษัททัวร์ประเทศมาเลเซียแจ้งเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ประมาณ 200 รถบัส มีนักท่องเที่ยวผ่านด่านฯ วันเดียวประมาณ 8,000 คน ยังไม่รวมการเดินทางมาแบบส่วนตัวและแบบครอบครัว จึงได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร ฯลฯ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวรอนาน โดยมีการตั้งเป้าไว้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งได้มีการประชุมกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เตรียมความพร้อมรับการเดินทางเข้า-ออก ด่านศุลกากรสะเดาและด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสำคัญในครั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการเสนอให้เพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองให้เพียงพอ การติดตั้งเครื่องตรวจเช็คเวลา ระยะเวลาผ่านด่าน ตม. การชำระค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องการผ่านแดนเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย และรวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ไม่มีความจะเป็นเพื่อช่วยลดระยะเวลาในการผ่านแดน และการจัดให้มีการประชาสัมพันธ์กับผู้เดินทางผ่านแดนทราบถึงขั้นตอนและระเบียบต่างๆ
ขณะที่ ตม.ได้เตรียมติดตั้งระบบ Auto Channel สำหรับคนไทย ขาเข้า 1 ช่อง และขาออก 2 ช่อง ตามกำหนดติดตั้ง คือ ในวันที่ 19 ธันวาคม 2560 เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการระบายนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีการนำโดรนขึ้นบินสำรวจมุมสูง ว่าบริเวณจุดใดของด่านที่มีการจราจรติดขัด เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ในการระบายการจราจรให้เกิดความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทาง ตม. มีช่องให้บริการจำนวน 8 ช่อง และจะเปิดเพิ่มเป็น 13 ช่อง สามารถเพิ่มการระบายนักท่องเที่ยวจาก 800 คนต่อชั่วโมง เพิ่มเป็น 1,040 คนต่อชั่วโมง ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางผ่านด่านอีกทางหนึ่งด้วย
นายสืบสวัสดิ์ สาครินทร์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เนื่องจากในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่จะถึงนี้ จะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวผ่านด่านพรมแดนสะเดาและปาดังเบซาร์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ ได้รับการประสานจากบริษัททัวร์ประเทศมาเลเซียแจ้งเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ประมาณ 200 รถบัส มีนักท่องเที่ยวผ่านด่านฯ วันเดียวประมาณ 8,000 คน ยังไม่รวมการเดินทางมาแบบส่วนตัวและแบบครอบครัว จึงได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร ฯลฯ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวรอนาน โดยมีการตั้งเป้าไว้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง ซึ่งได้มีการประชุมกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เตรียมความพร้อมรับการเดินทางเข้า-ออก ด่านศุลกากรสะเดาและด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสำคัญในครั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยการเสนอให้เพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองให้เพียงพอ การติดตั้งเครื่องตรวจเช็คเวลา ระยะเวลาผ่านด่าน ตม. การชำระค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องการผ่านแดนเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย และรวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ไม่มีความจะเป็นเพื่อช่วยลดระยะเวลาในการผ่านแดน และการจัดให้มีการประชาสัมพันธ์กับผู้เดินทางผ่านแดนทราบถึงขั้นตอนและระเบียบต่างๆ
ขณะที่ ตม.ได้เตรียมติดตั้งระบบ Auto Channel สำหรับคนไทย ขาเข้า 1 ช่อง และขาออก 2 ช่อง ตามกำหนดติดตั้ง คือ ในวันที่ 19 ธันวาคม 2560 เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการระบายนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีการนำโดรนขึ้นบินสำรวจมุมสูง ว่าบริเวณจุดใดของด่านที่มีการจราจรติดขัด เพื่อเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ในการระบายการจราจรให้เกิดความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทาง ตม. มีช่องให้บริการจำนวน 8 ช่อง และจะเปิดเพิ่มเป็น 13 ช่อง สามารถเพิ่มการระบายนักท่องเที่ยวจาก 800 คนต่อชั่วโมง เพิ่มเป็น 1,040 คนต่อชั่วโมง ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางผ่านด่านอีกทางหนึ่งด้วย