xs
xsm
sm
md
lg

2 วันสุดท้าย ปชช.ทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบสักการะพระบรมศพเนืองแน่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันที่ 4 ตุลาคม 2560 นับเป็นวันที่ 336 ของการเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และเหลือเวลาอีกเพียง 2 วันสุดท้ายเท่านั้น ที่พสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ จะมีโอกาสได้กราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงทำให้มีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเป็นจำนวนมาก ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จนทำให้จุดท้ายแถวไปถึงอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง และสะพานมอญที่บริเวณหน่วยบัญชการรักษาดินแดน ท่ามกลางสภาพอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่สิ่งเหล่านี้หาใช่อุปสรรคไม่ แต่กลับกลายเป็นพลัง และความมุ่งมั่นที่จะต้องได้ขึ้นไปกราบลาพ่อหลวงพระราชาผู้เป็นที่รัก
นายฌัชชัย รัศมี เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรีและมาถึงท้องสนามหลวงตอนตี 5 ของวันนี้ และได้ขึ้นกราบสักการะพระบรมศพตอน 8 โมงเช้า กล่าวว่า เป็นการมาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก เพราะที่ผ่านมาต้องไปช่วยเหลือครอบครัวทำร้านอาหารไทยที่ประเทศฝรั่งเศษ แต่เมื่อทราบข่าวว่าในหลวง ร.10 ได้พระราชทานพระชานุญาตให้สักการะบรมศพถึงวันที่ 5 ตุลาคม จึงได้มาต่อคิวสักการะพระบรมศพเพื่อส่งเสด็จพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ถึงแม้ต้องเจอสภาพอากาศที่หนาวเย็นจากสายฝนพัดผ่านก็ตาม
นายกิติวัฒน์ แสนกลม อายุ 83 ปี ข้าราชการครูบำนาญ อดีตครูใหญ่โรงเรียนวัดขี้ตุ้น ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เดินทางพร้อมภรรยา นางชูชาติ แสนกลม อายุ 64 ปี ออกเดินทางจากบ้านที่จ.บุรีรัมย์ ด้วยรถไฟตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค. ถึงกรุงเทพฯ ราว 05.00 น. ก่อนเดินทางมาต่อแถวเพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพฯ และได้เข้ากราบเวลา 09.00 น. กล่าวว่า รู้สึกตื้นตันใจที่ได้เดินทางมากราบพระบรมศพฯ เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเดิมคิดว่าจะหมดหวังแล้วเพราะสิ้นสุดกำหนดการเข้ากราบและตัวเองปวดเข่าอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อทราบข่าวว่าสำนักพระราชวังขยายเวลาให้มากราบพระบรมศพฯ เพิ่ม จึงตัดสินใจเดินทางมาด้วยใจที่อยากจะกราบในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกสักครั้ง เมื่อมาถึงมีกำลังใจและจากที่ปวดเข่าก็รู้สึกบรรเทาลง สามารถเดินเหินได้ไม่ต้องใช้รถเข็น และตั้งใจไว้ว่าหากมีชีวิตอยู่จนถึงช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ จะเดินทางมาอีกครั้งให้ได้
นายกิตติวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สมัยที่เป็นครูใหญ่โรงเรียนวัดขี้ตุ้น เป็นโรงเรียนเล็กๆ มีนักเรียนเพียง 60-70 คน แม้จะสามารถสอบเพื่อย้ายไปอยู่โรงเรียนใหญ่ หรืออยู่ในพื้นที่อื่นๆ ได้ แต่ได้น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิต พอใจที่จะอยู่ในโรงเรียนเล็ก ๆ ช่วยพัฒนาบ้านเกิดของตัวเอง และได้ยึดพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชการที่ 9 ที่ว่า "ไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด" ดังนั้น ในฐานะที่เป็นครูจึงได้พยายามถ่ายทอดความรู้และการปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างในทางที่ดีตามรอยพระองค์ท่าน เพราะคนในปัจจุบันแม้จะมีการศึกษาสูงขึ้นแต่ขาดมโนธรรม ทำให้สังคมมีปัญหา แม้แต่พระสงฆ์ชั้นสูงยังมีกิเลส แต่พระองค์ท่านเหมือนพระอรหันต์ที่ละกิเลส พระองค์ท่านเสด็จฯ ไปเพื่อให้ ให้ทั้งอาชีพ ให้การศึกษา ให้ความเป็นอยู่ที่ดี ในทุกพื้นที่ของประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น