นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงเรือตรวจติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.คลองลาดพร้าว ตั้งแต่ท่าเรือใต้ทางด่วนถนนประดิษฐ์มนูธรรม จนถึงท่าเรือชั่วคราวหลังชุมชนกรมวิทยาศาสตร์ ถนนประเสริฐมนูกิจ โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตห้วยขวาง สำนักงานเขตวังทองหลาง สำนักงานเขตลาดพร้าว สำนักงานเขตจตุจักร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่
นายจักกพันธ์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.ตลอดแนวคลองลาดพร้าว เป็นการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในคลองสายหลักของกรุงเทพมหานคร โดยต้องมีการรื้อย้ายบ้านเรือนประชาชน ที่ก่อสร้างรุกล้ำออกจากพื้นที่คลอง รวม 7,081 ครัวเรือน โดย กทม.ตอกเสาเข็มเพื่อก่อสร้างเขื่อนไปแล้วทั้งหมด 13,665 ต้น จากจำนวนเสาเข็มทั้งหมดที่ต้องตอกรวม 60,000 ต้น ความยาวรวม 10,544 เมตร และสามารถก่อสร้างเป็นเขื่อน และทางเดินริมคลองได้ ความยาว 2,544 เมตร ซึ่งแผนงานในขณะนี้ทั้งโครงการมีความคืบหน้ารวม 40.50%
อย่างไรก็ตาม แผนการทำงานที่ กทม.ตั้งเป้าหมายไว้ คือภายในปีนี้ จะต้องสามารถตอกเสาเข็มทั้งหมด 60,000 ต้น ให้แล้วเสร็จตลอดแนวก่อสร้าง 45.3 กิโลเมตร ในพื้นที่ 8 เขต ได้แก่ เขตดอนเมือง สายไหม หลักสี่ บางเขน จตุจักร ลาดพร้าว ห้วยขวาง และวังทองหลาง ซึ่งสิ่งที่ดำเนินการได้ล่าช้าคือ การรื้อย้ายบ้านเรือนประชาชนที่ก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่คลอง ซึ่งอยู่ในแนวก่อสร้างเขื่อนทางเดินตลอดแนว
ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ กทม.จึงเร่งการลงพื้นที่พูดคุยเจรจากับประชาชนในชุมชนที่มีบ้านรุกล้ำริมคลองลาดพร้าว และยังไม่ยินยอมรื้อย้ายบ้านออกไป เพื่อให้มีความเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าวมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และมีแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มผู้รุกล้ำ โดยการจัดสรรพื้นที่ให้ปลูกบ้านหลังใหม่ริมคลองในรูปแบบบ้านมั่นคง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง กทม.อยากให้ประชาชนริมคลองลาดพร้าวเข้าใจ และร่วมมือเพื่อพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน
นายจักกพันธ์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนค.ส.ล.ตลอดแนวคลองลาดพร้าว เป็นการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในคลองสายหลักของกรุงเทพมหานคร โดยต้องมีการรื้อย้ายบ้านเรือนประชาชน ที่ก่อสร้างรุกล้ำออกจากพื้นที่คลอง รวม 7,081 ครัวเรือน โดย กทม.ตอกเสาเข็มเพื่อก่อสร้างเขื่อนไปแล้วทั้งหมด 13,665 ต้น จากจำนวนเสาเข็มทั้งหมดที่ต้องตอกรวม 60,000 ต้น ความยาวรวม 10,544 เมตร และสามารถก่อสร้างเป็นเขื่อน และทางเดินริมคลองได้ ความยาว 2,544 เมตร ซึ่งแผนงานในขณะนี้ทั้งโครงการมีความคืบหน้ารวม 40.50%
อย่างไรก็ตาม แผนการทำงานที่ กทม.ตั้งเป้าหมายไว้ คือภายในปีนี้ จะต้องสามารถตอกเสาเข็มทั้งหมด 60,000 ต้น ให้แล้วเสร็จตลอดแนวก่อสร้าง 45.3 กิโลเมตร ในพื้นที่ 8 เขต ได้แก่ เขตดอนเมือง สายไหม หลักสี่ บางเขน จตุจักร ลาดพร้าว ห้วยขวาง และวังทองหลาง ซึ่งสิ่งที่ดำเนินการได้ล่าช้าคือ การรื้อย้ายบ้านเรือนประชาชนที่ก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่คลอง ซึ่งอยู่ในแนวก่อสร้างเขื่อนทางเดินตลอดแนว
ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ กทม.จึงเร่งการลงพื้นที่พูดคุยเจรจากับประชาชนในชุมชนที่มีบ้านรุกล้ำริมคลองลาดพร้าว และยังไม่ยินยอมรื้อย้ายบ้านออกไป เพื่อให้มีความเข้าใจและเห็นถึงความสำคัญของโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าวมากยิ่งขึ้น ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และมีแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มผู้รุกล้ำ โดยการจัดสรรพื้นที่ให้ปลูกบ้านหลังใหม่ริมคลองในรูปแบบบ้านมั่นคง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง กทม.อยากให้ประชาชนริมคลองลาดพร้าวเข้าใจ และร่วมมือเพื่อพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน